posttoday

รฟม.ออกโรงเคลียร์คดีฟ้องสายสีส้ม ยันไม่กระทบเปิดขายซองประมูล ต.ค.นี้

17 กันยายน 2564

รฟม. ยืนยันเดินตามกระบวนการประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มถูกต้อง เตรียมเปิดขายซอง RPF คาดเดือนมี.ค. 65 เคาะผู้ผ่านการคัดเลือกได้

นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า รฟม. ขอแจ้งข้อเท็จจริงทางคดีเกี่ยวกับการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ – มีนบุรี (สุวินทวงศ์)  โดยเมื่อวันที่ 16  ก.ย. 2564 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางนัดพร้อมเพื่อกำหนดพยานและกำหนดประเด็นในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง ซึ่งทั้งโจทก์และจำเลยไม่ได้เดินทางไปศาล

ทั้งนี้ฝ่ายโจทก์มอบหมายผู้รับมอบอำนาจ และทนายความ ส่วนจำเลยมอบหมายให้พนักงานอัยการในฐานะทนายจำเลยเดินทางไปศาลเช่นเดียวกัน ซึ่งในกระบวนการพิจารณา ศาลเห็นว่า เนื่องจากคู่ความยังไม่ได้รับเอกสารที่ใช้ในการไต่สวนครบถ้วน ศาลจึงเห็นควรเลื่อนนัดพร้อม เพื่อกำหนดพยานและกำหนดประเด็นในการไต่สวนมูลฟ้องออกไปเป็นวันที่ 25 ตุลาคม 2564 เวลา 13.00 น.

สำหรับประเด็นข้อเท็จจริงทางคดีเกี่ยวกับการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ – มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ตามที่ รฟม. ได้เคยชี้แจงไปแล้วเมื่อวันที่ 1 ก.ย. 2564 รฟม. ยังคงยืนยันข้อเท็จจริงตามที่มีการแถลง ว่า ปัจจุบันมีการฟ้องคดีรวมจำนวน 3 คดี แบ่งเป็นคดีที่อยู่ในการพิจารณาของศาลปกครองกลาง จำนวน 2 คดี ได้แก่ คดีหมายเลขดำที่ 2280/2563 และคดีหมายเลขดำที่ 580/2564 และเป็นคดีที่อยู่ในระหว่างการไต่สวนมูลฟ้องของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง จำนวน 1 คดี คือ คดีหมายเลขดำที่ อท.30/2564

ส่วนคดีหมายเลขดำที่ อท.30/2564 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางนัดพร้อมเพื่อกำหนดพยานและกำหนดประเด็นในชั้นไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 25 ต.ค. 2564 หลังจากนั้นเมื่อมีการกำหนดประเด็นแล้ว ศาลจึงจะนัดไต่สวนมูลฟ้องคดีดังกล่าวต่อไป ดังนั้นปัจจุบันคดีนี้ศาลจึงเพียงแต่รับคำฟ้องของโจทก์ไว้ไต่สวนมูลฟ้องเท่านั้น แต่ยังมิได้มีการรับฟ้องคดีดังกล่าวไว้พิจารณาแต่อย่างใด

ด้านคดีหมายเลขดำที่ 2280/2563 ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำสั่งยืนตามคำสั่งศาลปกครองกลางที่จำหน่ายคดีในข้อหาที่ฟ้องขอให้เพิกถอนหลักเกณฑ์ร่วมลงทุนที่แก้ไขเพิ่มเติม ดังนั้น จึงไม่มีประเด็นพิพาทเกี่ยวกับการเพิกถอนหลักเกณฑ์อยู่ในการพิจารณาของศาลปกครองอีกต่อไป คงเหลือแต่ข้อหาที่ผู้ฟ้องคดีขอให้ รฟม. และคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 ชดใช้ค่าเสียหายในมูลละเมิดจำนวน 500,000 บาท เท่านั้น

ขณะที่คดีหมายเลขดำที่ 580/2564 ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำสั่งยืนตามคำสั่งศาลปกครองกลางที่ไม่รับคำฟ้องข้อหาเกี่ยวกับการการกระทำละเมิด และคำขอห้ามมิให้คณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 และ รฟม. กระทำการหรือดำเนินการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการคัดเลือกเอกชนในโครงการพิพาทครั้งใหม่ ไว้พิจารณา โดยให้เหตุผลว่า การดำเนินการคัดเลือกเอกชนเป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 และ รฟม. ตามกฎหมาย

ดังนั้น จึงไม่มีประเด็นพิพาทเกี่ยวกับการดำเนินการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนในครั้งใหม่อีกต่อไป คงเหลือแต่ข้อหาที่ผู้ฟ้องคดีขอให้เพิกถอนหรือยกเลิกมติหรือประกาศที่ รฟม. และคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 ยกเลิกการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนในโครงการนี้เท่านั้น

อย่างไรก็ตาม รฟม. ขอยืนยันว่า การดำเนินการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ – มีนบุรี (สุวินทวงศ์) เป็นไปตามขั้นตอนและกระบวนการที่กฎหมาย รวมถึงมติคณะรัฐมนตรี และมติคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนกำหนดอย่างครบถ้วนแล้ว

นายภคพงศ์  กล่าวว่า ในส่วนของคดีอาญาฯ นั้น ไม่ได้รู้สึกหนักใจ ยืนยันได้ว่าการดำเนินการคัดเลือกฯ ทั้งครั้งแรก และครั้งใหม่เป็นไปตามขั้นตอนกระบวนการทางกฎหมาย โดยกระบวนการคัดเลือกเอกชนในโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ในสัปดาห์หน้าทางคณะกรรมการ ม.36 จะมีการพิจารณาเอกสารหลักเกณฑ์การพิจารณาคัดเลือกเอกชน (Request for Proposal Document : RFP) คาดว่าจะเปิดจำหน่ายเอกสาร RFP ได้ในเดือน ต.ค.นี้ ซึ่งกำหนดให้เอกชนยื่นข้อเสนอในเดือน ธ.ค. และประเมินข้อเสนอเดือน ม.ค.-มี.ค.2565 คาดจะได้ข้อสรุปภายในเดือน มี.ค.2565 ก่อนจะเสนอผลการคัดเลือกให้ที่ประชุม ครม. พิจารณาเห็นชอบต่อไป

ทั้งนี้โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มฯ จะเปิดให้เอกชนร่วมลงทุนก่อสร้างช่วงตะวันตก บางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) เพื่อติดตั้งจัดหาระบบรถไฟฟ้าทั้งหมด และรับสัมปทานเดินรถตลอดเส้นทาง 35.9 กิโลเมตร (กม.) ระยะเวลา 30 ปี วงเงินลงทุนรวมประมาณ 1.2 แสนล้านบาท