posttoday

ส.อ.ท.เครื่องร้อน นัดถก ‘อนุทิน’ เคลียร์แผนจัดหาวัคซีนไร้ทิศทาง ชี้ไทยอยู่ในภาวะย่ำแย่

15 กรกฎาคม 2564

สุพันธุ์” ลั่นรัฐต้องเร่งจัดการหาวัคซีนให้เพียงพอ ประชาชนขาดความเชื่อมั่นอย่างแรง กระทุ้งองค์การเภสัชฯทำอะไรอยู่ วอนเจรจานำเข้าหั่นราคา Rapid Test เหลือชุดละ100 กว่าบาท

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่าสัปดาห์จะหารือกับนายอนุทิน  ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข เพื่อสอบถามถึงแนวทางกาจัดหาวัคซีนให้กับภาคอุตสาหกรรม เพราะที่ผ่านมาภาคอุตสาหกรรม ซึ่งมีแรงงาน 5-6 ล้านคน ได้รับวัคซีนเพียงแค่ 10%  โดยยังมีความล่าช้ามาก

ปัจจุบันแรงงานตามม.33 ได้รับวัคซีนมาแค่ 5-6 แสนโดส จากเป้าหมายที่ตกลงกันไว้ 1 ล้านโดส   ขณะนี้เรื่องวัคซีนทำให้เกิดปัญหาประชาชนขาดความเชื่อมั่นอย่างแรง และหากปล่อยไปแบบนี้ แผนการเปิดประเทศ120 วัน คงเป็นไปไม่ได้

“ช่วงล็อกดาวน์14 วัน รัฐต้องเร่งตรวจคัดกรองแยกคนป่วยออกมา ซึ่งชุด Rapid Test  ต้องถามองค์การเภสัชกรรมทำอะไรอยู่ ถ้าเจรจามากกว่านี้เชื่อว่าได้ น่าจะได้ราคา100 กว่าบาทเท่านั้น  เพราะอำนาจต่อรองดีที่สุด  ตอนนี้ในยุโรปขายไม่ถึ  ชุดละ100 บาท  ตอนนี้เราอยู่ในสถานการณ์ย่ำแย่คงปล่อยให้เป็นแบบนี้คงลำบาก” นายสุพันธุ์  กล่าว

อย่างไรก็ตามการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศไทยที่มีแนวโน้มผู้ติดเชื้อสูงขึ้นเกือบวันละ 10,000 คน และมีผู้เสียชีวิตเกือบวันละ 100 คน สภาอุตสาหกรรมฯ ในฐานะองค์กรหลักภาคเอกชนที่ได้ให้การช่วยเหลือทุกภาคส่วนมาอย่างต่อเนื่อง จึงได้จัดตั้งคณะทำงานช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด-19 อย่างเร่งด่วน แบ่งออกเป็น 5 คณะ ดังนี้

1. คณะทำงานด้านข้อมูลโควิด มีหน้าที่จัดการให้ความรู้คู่มือการใช้ Rapid Test, แนวการปฏิบัติตัวในช่วงโควิดและหลังโควิด ผ่านระบบ e-Learning และจัดทำคู่มือการปลูกและแจกเมล็ดพันธุ์ฟ้าทะลายโจร โดยมีนายศักดิ์ชัย อุ่นจิตติกุล รองประธาน ส.อ.ท. เป็นประธานคณะทำงานฯ  จะจัดหา 5 หมื่น คาดได้มาสัปดาห์หน้า

2. คณะทำงานจัดหาชุด Rapid test และจัดทำห้องความดันลบ มีหน้าที่ดำเนินการจัดหาชุด Rapid test & Product และจัดทำห้องความดันลบ โดยมีนายเกรียงไกร เธียรนุกุล รองประธาน ส.อ.ท.เป็นประธานคณะทำงานฯ

3. คณะทำงาน Call Center และประสานงาน ทำหน้าที่ประสานงานรับเรื่องการตรวจโควิด-19 ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตร และให้ข้อมูลที่ถูกต้องในการช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด-19 โดยมีนายอภิชิต  ประสพรัตน์ รองประธาน ส.อ.ท. เป็นประธานคณะทำงานฯ

4. คณะทำงานระบบแจ้งเตือนผู้มีความเสี่ยงโควิด ทำหน้าที่ผลักดันต่อกรมควบคุมโรคเพื่อให้ภาคราชการ เอกชน ประชาชนได้ใช้ระบบ Exposure Notification Express (ENX) ในการติดตามและแจ้งเตือนเมื่อใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อหรือกลุ่มเสี่ยง โดยมีนายสมโภชน์ อาหุนัย รองประธาน ส.อ.ท. เป็นประธานคณะทำงานฯ

5. คณะทำงานรับบริจาคช่วยเหลือ ทำหน้าที่เปิดรับบริจาคหาเงินช่วยเหลือในการดำเนินโครงการจัดทำห้องความดันลบ การจัดซื้อชุด Rapid test และการจัดหาวัคซีนเพิ่มเติม โดยมีนางพิมพ์ใจ ลี้อิสสระนุกูล รองประธาน ส.อ.ท. เป็นประธานคณะทำงานฯ

สำหรับมาตรการเยียวยา ส.อ.ท. ได้ร่วมกับสมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือภาคธุรกิจและภาคประชาชน ที่กำลังประสบปัญหาวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยผลักดันโครงการ Faster Payment ให้บริษัทที่เข้าร่วมโครงการจะลดระยะเวลา Credit term ให้แก่คู่ค้าของบริษัทโดยเฉพาะกลุ่มเอสเอ็มอี ในระยะเวลา 30 วันต่อไปจนถึงสิ้นปี ความร่วมมือกันในการจัดทำสินเชื่อ Supply Chain Factoring เพื่อช่วย SMEs โดยจะหารือร่วมกับสถาบันการเงินเพื่อให้เกิดขึ้นให้ได้อย่างรวดเร็ว

ด้านแนวทางกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศด้วยการสนับสนุนสินค้าที่ได้ขึ้นทะเบียน Made in Thailand แล้ว” รวมถึงเพิ่มสัดส่วนการค้ำประกันความเสียหายผ่านบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อมเป็นร้อยละ 50 เพื่อให้สถาบันการเงินสามารถให้สินเชื่อแก่ผู้ประกอบการที่ประสบปัญหาในช่วงนี้ได้มากขึ้น และขอให้ผู้ประกอบการที่เป็นลูกหนี้สถาบันการเงินที่เข้าเกณฑ์ NPL ที่เกิดขึ้นในช่วงโควิดจนถึง 3 ปี นับจากสิ้นสุดช่วงโควิด ไม่มีประวัติข้อมูลที่บ่งบอกถึงประวัติการชำระหนี้หรือสินเชื่อใน Credit Bureau (บริษัท บัตรเครดิตแห่งชาติ จำกัด)  

ทั้งนี้ ส.อ.ท. ขอเชิญร่วมบริจาคเงินเพื่อจัดหาห้องความดันลบช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด-19 ได้ที่ชื่อบัญชี มูลนิธิพัฒนาอุตสาหกรรม เลขที่บัญชี 009-1-71583-0 ธนาคารกรุงไทยสาขาไทยเบฟควอเตอร์ (ใบบริจาคสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ 100%)ถ้าต้องเปิดประเทศอย่างน้อยต้องฉีดให้ได้ 50% ต้องแก้ปัญหาคอขวดให้ได้