ค้าชายแดนคึกคักฝ่าวิกฤตโควิด 5 เดือนแรกแตะ 6.7 แสนล้าน
“จุรินทร์” เดินหน้ากระตุ้นการค้าชายแดน หลังแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง ตามปัจจัยเศรษฐกิจโลกทยอยฟื้น เตรียมพบฑูตสปป.ลาว 1 ก.ค. นี้เพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกัน
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ เปิดเผยถึง สถานกาณณ์การค้าชายแดนและการค้าผ่านแดน การส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ว่า การค้าชายแดนและการค้าผ่านแดน เดือนพฤษภาคม มีมูลค่า 150,858 ล้านบาทปรับตัวเพิ่มขึ้น 38.38% เทียบกับปีก่อน เมื่อแยกการค้าชายแดนกับการค้าผ่านแดนออกจากกัน พบว่า การค้าชายแดนชมีมูลค่า 75,659 ล้านบาท ขยายตัว 4.13% ขณะที่การค้าผ่านแดนมีมูลค่า 75,199 ล้านบาทขยายตัว 7.45%
ส่วนภาพรวม 5 เดือนแรก(ม.ค.-พ.ค.) การค้าชายแดนกับการค้าผ่านแดนมีมูลค่า 677,078 ล้านบาท ขยายตัว 29.15% แยกเป็นการค้าชายแดนอย่างเดียว มูลค่า 371,040 ล้านบาท และการค้าผ่านแดน มูลค่า 306,038 ล้านบาท
การค้าชายแดนแยกแต่ละประเทศ ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกือบทุกประเทศ ได้แก่ มาเลเซียมูลค่า 134,474 ล้านบาท ขยายตัว 53.00% ลาว 87,369 ล้านบาท ขยายตัว 13.30% เมียนมา 78,833 ล้านบาท ขยายตัว 6.9% กัมพูชา 70,364 ล้านบาท ลดลง 0.68% ส่วนการค้าผ่านแดนไป จีนมีมูลค่า 140,406 ล้านบาท ขยายตัว 54.85% สิงคโปร์ 46,478 ล้านบาท ขยายตัว 28.74% เวียดนาม 28,586 ล้านบาท ขยายตัว15.73%
อย่างไรก็ตามปัจจัยสำคัญที่ทำให้การค้าชายแดนและผ่านแดนที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้น เนื่องจากเศรษฐกิจเพื่อนบ้านและทั่วโลกเริ่มฟื้นตัว มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของแต่ละประเทศ และความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนที่จะทำให้การเปิดเมืองและการกลับมาของกิจกรรมทางเศรษฐกิจมีได้มากขึ้น
นายจุรินทร์ กล่าวว่า เหตุผลสำคัญที่ทำให้การค้าเป็นบวกก็คือ ประการที่หนึ่ง เนื่องจากการจับมือทำงานร่วมกันระหว่างกระทรวงพาณิชย์กับภาคเอกชนในรูป กรอ.พาณิชย์ สามารถดำเนินการร่วมกันในการเร่งรัดการเปิดด่านจาก 97 ด่านที่ปิดลงไปเยอะ สามารถที่จะเปิดด่านได้ถึง 46 ด่าน ขณะเดียวกันก็มีการเร่งรัดดำเนินการแก้ไขปัญหาเชิงรุกในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาเพื่อให้สินค้าที่จะข้ามแดนแต่ละประเทศสามารถผ่านไปได้โดยสะดวกรวดเร็วขึ้นแม้มีปัญหาอุปสรรคหลายประการก็สามารถแก้ปัญหาให้ลุล่วงไปได้ด้วยดี
ประการที่สอง เนื่องจากเศรษฐกิจของประเทศเพื่อนบ้านเริ่มฟื้นตัวเพื่อส่งเสริมการค้าหรือเร่งรัดตัวเลขการส่งออกผ่านการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดน 1.จะเร่งเปิดด่าน ขณะนี้มีเป้าหมาย 11 ด่าน ให้เปิดได้เร็วที่สุดภายใต้ข้อจำกัดโควิด เพื่อให้การค้าเดินหน้าต่อไปได้
นอกจากนี้ในวันที่ 1 ก.ค. ได้เรียนเชิญท่านทูตลาวประจำประเทศไทยเข้ามาหารือที่กระทรวงพาณิชย์เพื่อหาทางร่วมกันในการเพิ่มมูลค่าการค้าชายแดนระหว่างไทย-ลาวและการค้าผ่านแดนระหว่างไทย-ลาวต่อไป
ขณะเดียวกันตนจะเดินทางไปภาคอีสานในช่วงวันที่ 9-11 กรกฎาคม ซึ่งก็มีจังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดอำนาจเจริญ จังหวัดศรีสะเกษ เป็นต้น โดยที่อุบลฯ จะไปเร่งรัดการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดน เร่งรัดการเปิดด่านปากแซง นาตาล และแก้ไขปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นที่ด่านช่องเม็กเป็นต้น


