posttoday

สถานีไฟฟ้าแรงสูงจตุจักรเปิดใช้แน่ก.ค.นี้ รองรับสายสีแดง-ขนส่งกลางบางซื่อ

21 มิถุนายน 2564

กฟผ.- MEA - รฟท. ได้ฤกษ์ดีเปิดสถานีไฟฟ้าแรงสูง พร้อมจ่ายไฟสูงสุด 2,400 เมกะวัตต์เทียบเท่าโรงไฟฟ้าใหญ่ 3 แห่งรองรับเส้นทางคมนาคมระบบรางในกทม.เริ่มใช้งาน ก.ค. นี้

นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) นายกีรพัฒน์ เจียมเศรษฐ์ ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง (MEA) และนายอวิรุทธ์ ทองเนตร รองผู้ว่าการกลุ่มอำนวยการ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ร่วมพิธีเปิดสถานีไฟฟ้าแรงสูงจตุจักร กฟผ. และสถานีต้นทางบางซื่อ MEA เพื่อส่งจ่ายพลังงานไฟฟ้าให้กับสถานีกลางบางซื่อและโครงการรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ณ สถานีไฟฟ้าแรงสูงจตุจักร กรุงเทพมหานคร

นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการ กฟผ. เปิดเผยว่า กฟผ. ได้ดำเนินการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคม ร่วมกับ MEA และ รฟท. ก่อสร้างสถานีไฟฟ้าแรงสูงจตุจักรเพื่อเตรียมความพร้อมในการส่งจ่ายพลังงานไฟฟ้ารองรับการใช้ไฟฟ้าของสถานีกลางบางซื่อ และโครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ช่วงบางซื่อ - รังสิต และช่วงบางซื่อ - ตลิ่งชัน ซึ่งจะเป็นศูนย์กลางการคมนาคมระบบรางของไทยแห่งใหม่ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในอาเซียน เป็นเส้นทางการคมนาคมขนส่งระบบรางที่สำคัญในอนาคตและยังถือเป็นโอกาสที่ดีในการ Restart กระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ

สถานีไฟฟ้าแรงสูงจตุจักรเปิดใช้แน่ก.ค.นี้ รองรับสายสีแดง-ขนส่งกลางบางซื่อ

สำหรับสถานีไฟฟ้าแรงสูงจตุจักร เริ่มดำเนินการก่อสร้างเมื่อเดือนมี.ค. 2560 พร้อมส่งจ่ายไฟฟ้าให้สถานีต้นทางบางซื่อ MEA เมื่อวันที่ 15 พ.ย. 2563 เป็นสถานีไฟฟ้าแรงสูงแบบใช้ฉนวนก๊าซ (Gas Insulated Substation: GIS) โดยเชื่อมโยงกับสถานีไฟฟ้าแรงสูงลาดพร้าว แจ้งวัฒนะ และพระนครเหนือ ด้วยสายส่งไฟฟ้าแรงสูงระดับแรงดัน 230 กิโลโวลต์ รวมทั้งสิ้นจำนวน 4 วงจร พร้อมออกแบบและติดตั้งเสาไฟฟ้าแรงสูงแบบพิเศษที่มีเพียงต้นเดียวในประเทศไทยให้สามารถใช้งานในพื้นที่จำกัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ และควบคุมความสูงของเสาไม่ให้ส่งกระทบต่อระบบการจ่ายกระแสไฟฟ้าเดิม

ทั้งนี้สามารถส่งจ่ายพลังงานไฟฟ้าได้สูงสุดถึง 2,400 เมกะวัตต์ หรือเทียบเท่าโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่จำนวน 3 แห่ง รองรับการใช้ไฟฟ้าของสถานีกลางบางซื่อ และโครงการรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ได้อย่างมีประสิทธิภาพและรองรับการคมนาคมของประเทศไทยในอนาคต ซึ่งจะปรับเปลี่ยนเข้าสู่รูปแบบการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า หรือ EV มากยิ่งขึ้น

นายกีรพัฒน์ เจียมเศรษฐ์ ผู้ว่าการ MEA กล่าวว่า MEA เริ่มดำเนินการก่อสร้างสถานีต้นทางบางซื่อ ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2560 มีประสิทธิภาพรองรับปริมาณพลังงานไฟฟ้าสูงถึง 1,800 MVA (เมกะโวลต์แอมป์) เพื่อรองรับการจ่ายไฟฟ้าพื้นที่สถานีกลางบางซื่อ และโครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) โดยผ่านการควบคุมบริหารจัดการระบบไฟฟ้าด้วยระบบ SCADA ที่ทันสมัย ทั้งยังออกแบบให้มีระบบสำรองไฟฟ้าในกรณีเหตุฉุกเฉิน   โดยบูรณาการร่วมกับ กฟผ. ในการเชื่อมโยงระบบสายส่งไฟฟ้าแรงสูงจากแหล่งจ่ายสถานีไฟฟ้าแรงสูงข้างเคียงของ กฟผ. ในพื้นที่โดยรอบ 3 สถานี (สถานีไฟฟ้าแรงสูงแจ้งวัฒนะ พระนครเหนือ และลาดพร้าว)

สถานีไฟฟ้าแรงสูงจตุจักรเปิดใช้แน่ก.ค.นี้ รองรับสายสีแดง-ขนส่งกลางบางซื่อ

รวมถึงการเชื่อมโยงจากสายส่งไฟฟ้าจากสถานีย่อยข้างเคียงของ MEA เอง ทำให้เสถียรภาพของระบบไฟฟ้ามีความมั่นคงยิ่งขึ้น โดย MEA มีความพร้อมในการจัดการควบคุมจ่ายไฟฟ้าให้กับทุกสถานีรถไฟฟ้าทั้งในปัจจุบัน

นอกจากนี้ MEA ได้เตรียมความพร้อมรองรับการเชื่อมโยงระบบไฟฟ้าสำหรับการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าที่จะมาทดแทนรถยนต์น้ำมันต่อไปในอนาคต เพื่อสร้างความสะดวกสบายให้กับประชาชน ลดปัญหามลพิษทางอากาศ ตลอดจนการติดตั้งและพัฒนาสถานีอัดประจุไฟฟ้าของ MEA เชื่อมต่อ Platform ระบบบริหารจัดการเครื่องอัดประจุไฟฟ้าอัจฉริยะ วิเคราะห์ข้อมูลการชาร์จ เชื่อมต่อกับ MEA EV Application รองรับการใช้งานและอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าอย่างครบวงจรในพื้นที่ให้บริการได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ MEA จึงมีความพร้อมพัฒนางานบริการเทคโนโลยีด้านระบบไฟฟ้าที่ทันสมัยขับเคลื่อนระบบพลังงานอัจฉริยะเพื่อวิถีชีวิตเมืองมหานคร

ด้านนายอวิรุทธ์  ทองเนตร รองผู้ว่าการกลุ่มอำนวยการ รฟท. กล่าวว่า พลังงานไฟฟ้าเป็นปัจจัยสำคัญยิ่งสำหรับสถานีกลางบางซื่อ สถานีรถไฟหลักแห่งใหม่ ซึ่งจะเปิดดำเนินการอย่างเป็นทางการในฐานะศูนย์กลางระบบรางที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน ที่เชื่อมต่อทุกรูปแบบการเดินทางของระบบขนส่งมวลชนอื่น ๆ ซึ่งโครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ถือเป็นโครงการระบบขนส่งมวลชนทางรางที่เป็นโครงข่ายเชื่อมโยงการเดินทางของประชาชนระหว่างพื้นที่ใจกลางเมืองของกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยคาดว่าสามารถเปิดให้ประชาชนทดลองใช้บริการในเดือนกรกฎาคมนี้ และให้บริการเชิงพาณิชย์ได้ประมาณปลายปี รองรับรองรับประชาชนที่มาใช้บริการที่สถานีกลางบางซื่อ จำนวน 624,000 คน ต่อวัน และโครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ช่วงบางซื่อ - รังสิต และช่วงบางซื่อ - ตลิ่งชัน จำนวน 463,000 คน ต่อวัน ทำให้ทุกวันแห่งการเดินทางมีแต่รอยยิ้มแห่งความสุขที่เกิดจากคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นตลอดไป