พิษโควิดทำเที่ยวบินอ่วม หายจากท้องฟ้ากว่า 5.7 แสนเที่ยว
วิทยุการบินฯ ชี้ธุรกิจการบินปี’64 ดีขึ้นแบบชะลอตัว หลังปีก่อน โควิดทำเที่ยวบินหายไปกว่า 55 % ขณะที่ IATA ขออีก 2 ปี กลับคืนโหมดปกติ
นายทินกร ชูวงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทวิทยุการบินแห่งประเทศไทย (บวท.) (ปฏิบัติการ) เปิดเผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) สร้างผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก โดยธุรกิจการบินเป็นธุรกิจที่ได้รับผลกระทบอย่างมาก ทำให้หลายประเทศต้องประกาศมาตรการปิดพื้นที่ (Lockdown) ส่งผลกระทบต่อระบบการขนส่งทางอากาศทั่วโลก
ขณะที่ไทยตั้งแต่เดือนม.ค.-ธ.ค. 2563 จำนวนผู้โดยสารและปริมาณเที่ยวบินทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศลดลง ต่อเนื่อง โดยมีปริมาณเที่ยวบินจำนวน 464,944 เที่ยวบิน ลดลง 55 % จากปี 2562 ซึ่งมีจำนวน 1,042,342 เที่ยวบิน
สำหรับแนวโน้มปริมาณเที่ยวบินปี 2564 นั้น สถานการณ์ยังคงอยู่ภายใต้การได้รับผลกระทบจาก โรคโควิด-19 แต่จะมีแนวโน้มดีขึ้นหากมีความเป็นไปได้ในการนำวัคซีนมาใช้ในอนาคต
รวมถึงปัจจัยการกระตุ้นเศรษฐกิจจากนโยบายของรัฐบาล แต่การเพิ่มขึ้นดังกล่าวยังอยู่ในอัตราแบบชะลอตัว ซึ่งการคาดการณ์เที่ยวบินในภาพรวมจะมีการปรับตัวดีขึ้นจากปัจจัยบวกต่าง ๆ แต่อาจมีการชะลอตัวหากการระบาดระลอกใหม่มีความรุนแรง ซึ่งคาดว่าจะกระทบในระยะสั้นและจะกลับมาปรับตัวดีขึ้นหลังจากนั้น
ทั้งนี้สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) ได้ประเมินผลกระทบจากโรค โควิด-19 ต่อธุรกิจการบินทั่วโลกว่าจะกลับมาสู่ภาวะปกติเท่ากับช่วงเวลาก่อนได้รับผลกระทบประมาณปี 2566 - 2567 โดยเที่ยวบินภายในประเทศจะกลับมาทำการบินได้เร็วกว่าเที่ยวบินระหว่างประเทศ
อย่างไรก็ตามจากสถานการณ์ดังกล่าวที่สายการบินได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงนั้น บวท. ได้ดำเนินมาตรการให้ความช่วยเหลือสายการบินตามนโยบายรัฐบาล เพื่อเป็นการบรรเทาผลกระทบ โดยได้ปรับลดค่าบริการการเดินอากาศทั้งเที่ยวบินในประเทศและระหว่างประเทศ ระหว่างเดือน เม.ย.-ธ.ค. 2563 และยกเว้นค่าปรับจากการชำระล่าช้าของสายการบินผู้ถือหุ้นสำหรับค่าบริการควบคุมจราจรทางอากาศ และกลุ่มลูกค้าธุรกิจการบินสำหรับค่าเช่า และค่าบำรุงรักษาอุปกรณ์สื่อสารเป็นจำนวน 90 วัน นับจากวันที่ครบกำหนดชำระระหว่างเดือนมี.ค.-ก.ย. 2563
ทั้งนี้ บวท. ยังคงมุ่งมั่นในการให้บริการการเดินอากาศเพื่อความปลอดภัย ทุกเที่ยวบิน ด้วยประสิทธิภาพตามมาตรฐานขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) อีกทั้งปรับปรุงกระบวนการและนโยบายความเสี่ยงทุกด้าน เตรียมความพร้อมด้านการบริการจราจรทางอากาศ งานวิศวกรรมจราจรทางอากาศ และส่วนสนับสนุนที่เกี่ยวข้อง เพื่อรองรับสถานการณ์วิกฤตที่กำลังเกิดขึ้นอย่างใกล้ชิด