posttoday

ตั้งบริษัทรถไฟพัฒนาฯ เนรมิตที่ดิน 3.8 หมื่นไร่ โกยรายได้ 6 แสนล้าน

29 กันยายน 2563

รฟท.เดินหน้าตั้งบริษัทลูกบริหารสินทรัพย์หลังครม.ไฟเขียว กางแผนหารายได้จากที่ดิน 3.8 หมื่นไร่ คาดช่วง 30 ปี สร้างรายได้กว่า 6 แสนล้านบาท หวังช่วยบรรเทาภาระหนี้สะสมก้อนใหญ่

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี   เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)เห็นชอบให้การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.)จัดตั้งบริษัทลูกเพื่อบริหารทรัพย์สินของรฟท. โดยใช้ชื่อว่า บริษัท รถไฟพัฒนาสินทรัพย์ จำกัด มีทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท โดยเห็นชอบให้รฟท.กู้ยืมเงินจำนวน 200 ล้านบาท เพื่อนำมาลงทุนเป็นทุนจดทะเบียนด้วย และให้รับภาระต้นเงินกู้ ดอกเบี้ย ค่าใช้จ่ายในการกู้เงิน มีกระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกันการกู้เงินรวมถึงพิจารณาวิธีการรกู้เงิน เงื่อนไข และรายละเอียดตามคความเหมาะสม

ทั้งนี้ความจำเป็นในการจัดตั้งบริษัทลูกในครั้งนี้ว่า รฟท.มีที่ดินที่ไม่ได้ใช้เพื่อการเดินรถจำนวน 38,469 ไร่ มูลค่าประมาณ 300,000 ล้านบาท แต่มีรายได้ผลตอบแทนจากการบริหารสินทรัพย์ประมาณปีละ 2,400 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 1ของมูลค่าสินทรัพย์ เนื่องจากการบริหารสินทรัพย์ไม่ใช่กิจกรรมหลักที่รฟท.มีความชำนาญเฉพาะด้าน ทำให้ไม่สามารถนำสินทรัพย์ที่มีอยู่มาบริหารจัดการได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ จึงมีความจำเป็นที่ต้องจัดตั้งองค์กรขึ้นมาใหม่เพื่อบริหารสินทรัพย์เป็นกิจกรรมหลัก

สำหรับรายได้ของบริษัท รถไฟพัฒนาสินทรัพย์ จำกัด จะมาจาก 3 ส่วนคือ 1.รายได้จากค่ารับจ้างบริหารสัญญาเช่าเดิมจำนวน 15,270 สัญญา โดยสินทรัพย์ทั้งหมดยังคงเป็นของรฟท.

2.รายได้จากการให้เช่าช่วง ร่วมทุน หรือพัฒนาที่ดินเดิมที่หมดอายุสัญญาและ3.รายได้จากโครงการร่วมลงทุนกับเอกชนและการพัฒนาพื้นที่ดินเปล่าแปลงอื่นๆ และในอนาคตอาจมีรายได้จากการขายกระแสเงินสดในอนาคตให้ส่วนผลกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์

อย่างไรก็ตามผลประโยชน์ที่รฟท.ได้รับจะมีรายได้จากบริษัท รถไฟพัฒนาสินทรัพย์ เพื่อมาลดภารระหนี้สิน โดยประมาณการผลตอบแทนที่รฟท.จะได้รับในช่วง 30 ปี อยู่ที่ 631,628 ล้านบาท เพียงพอที่จะนำมาแก้ไขปัญหาหนี้สินในปัจจุบัน ซึ่งข้อมูล ณ วันที่ 31 ธ.ค.2562 มีภาระหนี้สินรวม 177,611 ล้านบาท