posttoday

เวทีประชาพิจารณ์รอบแรก โรงไฟฟ้าพลังน้ำจุฬาภรณ์ฯผ่านฉลุย

14 กันยายน 2563

กฟผ.เปิดรับฟังความเห็น โครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังน้ำจุฬาภรณ์ ทยอยเก็บข้อมูล พบชาวชัยภูมิ-ขอนแก่นยังห่วงแผนจัดการน้ำหน้าแล้ง และผลกระทบสิ่งแวดล้อม

นางศรีวรรณ บูรณโชคไพศาล ผู้ช่วยผู้ว่าการแผนงานโรงไฟฟ้า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 12-13 ก.ย. กฟผ.ร่วมกับ บริษัท ปัญญา คอนซัลแตนท์ จำกัด จัดประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 1 โครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำจุฬาภรณ์แบบสูบกลับและระบบโครงข่ายไฟฟ้าเพื่อเป็นแหล่งกักเก็บพลังงานเสริมความมั่นคงระบบไฟฟ้าของประเทศ โดยจะนำความคิดเห็นที่ได้ไปกำหนดขอบเขตการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมเพิ่มเติมให้ครบถ้วนครอบคลุมทุกมิติ

ทั้งนี้มีประชาชนเข้าร่วมการประชุมทั้งหมดจำนวน 702 คน มีผู้แสดงความคิดเห็นด้วยวาจา 24 คน ซึ่งเป็นผู้แทนจากประชาชนในพื้นที่ อ.คอนสาร อ.เกษตรสมบูรณ์ จ.ชัยภูมิ และ อ.ภูผาม่าน อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น   

อย่างไรก็ตามข้อมูลและข้อคิดเห็นต่างๆมีคุณค่าต่อการกำหนดขอบเขตการศึกษาและจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมให้มีความสมบูรณ์ เหมาะสมกับประชาชนในพื้นที่มากที่สุด โครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำจุฬาภรณ์แบบสูบกลับ มีกำลังผลิตติดตั้ง 800 เมกะวัตต์ อยู่ในขั้นตอนการวางแผนและศึกษา เพื่อผลักดันสู่แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย(พีดีพี) มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อทำหน้าที่เป็นแบตเตอรี่กักเก็บพลังงานขนาดใหญ่ใช้ผลิตไฟฟ้าในช่วงความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงเสริมความมั่นคงด้านพลังงานไฟฟ้าให้กับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ทั้งนี้ได้ก่อสร้างเขื่อนปิดกั้นลำน้ำสุ(อ่างเก็บน้ำตอนล่าง)ซึ่งอยู่ท้ายน้ำโรงไฟฟ้าเขื่อนจุฬาภรณ์ประมาณ 5 กิโลเมตร(กม.)ในช่วงเวลาที่มีความของการใช้ไฟฟ้าต่ำโรงไฟฟ้าจะทำการสูบน้ำบางส่วนกลับขึ้นไปเก็บไว้ในอ่างเก็บน้ำเขื่อนจุฬาภรณ์ (อ่างเก็บน้ำตอนบน) แล้วระบายน้ำผ่านโรงไฟฟ้าใต้ดินอีกครั้งเพื่อผลิตไฟฟ้าในช่วงที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูง ถือเป็นการใช้ทรัพยากรน้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุด

สำหรับการดำเนินการปรับปรุงระบบโครงข่ายไฟฟ้าเดิมจาก 115 กิโลโวลต์ เป็น 230 กิโลโวลต์ จะไม่มีการขยายแนวเขตระบบโครงข่ายไฟฟ้าเพิ่มเติม โดยโครงการฯใช้เวลาก่อสร้างประมาณ8ปีก่อให้เกิดการใช้จ่ายและกระตุ้นเศรษฐกิจในท้องถิ่น รวมถึงการจ้างงานให้กับชุมชน เมื่อเปิดดำเนินโครงการฯ ยังสามารถพัฒนาพื้นที่ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเพิ่มโอกาสสร้างรายได้และอาชีพแก่ชุมชนอีกทั้งยังได้รับงบประมาณในการพัฒนาชุมชนจากกองทุนพัฒนาไฟฟ้าอีกด้วย

นายกอบชัย บุญอรณะ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ กล่าวว่า พลังงานไฟฟ้าเป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิตทั้งยังเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยในการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของประเทศ ขอขอบคุณ กฟผ. ที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุดโดยดำเนินการศึกษาโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำจุฬาภรณ์แบบสูบกลับ เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงด้านระบบไฟฟ้าในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยการประชุมครั้งนี้ได้เปิดโอกาสให้ประชาชนในพื้นที่ร่วมแสดงความคิดเห็นและข้อห่วงกังวลครบถ้วนทุกด้าน เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อชาวชัยภูมิและชาวขอนแก่น

นายชูลิต วัชรสินธุ์ ผู้จัดการโครงการ บริษัท ปัญญา คอนซัลแตนท์ จำกัด กล่าวว่า สิ่งที่ประชาชนมีความกังวล ได้แก่ การบริหารจัดการน้ำโดยเฉพาะในช่วงภัยแล้งเพื่อให้ชุมชนมีน้ำใช้เพื่อการอุปโภคบริโภคและเกษตรกรรม การบริหารจัดการกองทุนพัฒนาโรงไฟฟ้า การจ้างแรงงานในพื้นที่ การดูแลความปลอดภัยทางถนนในช่วงการก่อสร้าง การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่

การดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมและบูรณาการพื้นที่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ ตลอดจนการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชน ซึ่งทุกข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะของประชาชน นับว่าเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง บริษัทที่ปรึกษาจะรวบรวมข้อมูลข้อเสนอแนะที่ได้ไปกำหนดขอบเขตการศึกษาของการจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA)  โครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำจุฬาภรณ์แบบสูบกลับและระบบโครงข่ายไฟฟ้า จ.ชัยภูมิ เพิ่มเติมให้ครบถ้วนต่อไป