posttoday

รัฐบาลสั่งรับมือคนตกงาน

02 กรกฎาคม 2563

"สมคิด" สั่งคลังรับมือคนตกงาน เตรียมมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวบริโภคในประเทศเพิ่ม สรุปกลางเดือน ก.ค.นี้

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังประชุมติดตามนโยบายเศรษฐกิจ ร่วมกับ นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง ว่า ประเด็นปัญหาที่รัฐบาลให้ความสำคัญมากขณะนี้ คือ การจ้างงาน ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ทั่วโลก ซึ่งการว่างงานไม่จาก 2 สาเหตุหลัก ได้แก่

1. การระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ทำให้โรงงานเริ่มปิด มีคนว่างงานแล้วดินทางย้ายกลับถิ่นฐาน ซึ่งรัฐบาลได้เตรียมเงินกู้ไว้ 4 แสนล้านบาท จากพระราชกำหนดกู้เงิน 1 ล้านล้านบาท เข้าไปดูแล โดยกำชับสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เน้นใช้งบที่เกี่ยวกับการสร้างงานเป็นภารกิจหลัก

2. ส่วนกลุ่มที่การว่างงานยังไม่เกิด แต่ไม่ต้องการให้เกิด ภาคธุรกิจต้องหยุดกิจการ หรือชะงัก โดยมอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ไปเตรียมมาตรการด้านการท่องเที่ยวในประเทศ เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อ ซึ่งเชื่อว่าเมื่อรอให้แพ็คเกจท่องเที่ยวออกมา อุปสงค์ภายในประเทศจะเริ่มดีขึ้น ส่วนต่างประเทศ ศูนย์โควิด (ศบค.) กำลังดูว่าจะเปิดให้เดินทางได้เมื่อไหร่ ก็หวังว่าท่องเที่ยวจะเข้ามา

“ยังมีอีกหลายจุดที่มาตรการท่องเที่ยวยังไม่ครอบคลุม โดยเฉพาะการท่องเที่ยวในระดับท้องถิ่น จึงให้ สศค. ไปดูมมาตรการเสริมส่วนนี้ และกำชับสรรพากรช่วยคิดนโยบายการกระตุ้นการบริโภค เพราะคนระดับบน มีเงินสะสมเยอะ ใช้จ่ายเยอะ แต่ข้างล่างลำบาก อยากให้มาบริโภคในช่วงเวลานี้เพื่อให้เงินกระจายไปสู่พี่น้องที่ลำบากกว่า ซึ่งมาตรดารต้องแล้วเสร็จในกลางเดือน ก.ค.นี้” นายสมคิด กล่าว

นายสมคิด กล่าวว่า อีกส่วนที่สำคัญคือ ปัญหาหนี้เสีย ที่โควิดทำให้ธุรกิจประสบปัญหามาก ถ้าไม่ไปช่วยในขณะนี้ก็ไม่มีทางเลือก ก็ต้องลดคนงานในที่สุด ก็ต้องการหยุดที่ต้นทาง ซึ่งขณะนี้สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางแลขนาดย่อม (สสว.) กำลังทำกองทุนคนตัวเล็กที่จะให้สภาพคล่อง เงินทุนบางส่วนและทำให้แข็งแรงพอขอสินเชื่อในระบบได้ ซึ่งจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบวันที่ 8 ก.ค.นี้

นอกจากนี้ ยังให้ ธปท. ไปดูมาตรการช่วยธุรกิจรายใหญ่ ที่เข้าไม่ถึง พ.ร.ก.ซอฟท์โลนของ ธปท. เนื่องจากกำหนดไว้ว่าต้องไม่หนี้คงค้างไม่เกิน 500 ล้านบาท และเสนอมาในช่วงกลางเดือน ก.ค.

สำหรับการร้องขอให้เลื่อนชำระหนี้ให้ยาว จากเดิมที่มาตรการ ธปท. ช่วยชะลอชำระหนี้ถึงสิ้นเดือน ก.ย.นี้ ได้ให้คลังพิจารณาอยู่ ทุกหน่วยที่เกี่ยวพยายามดูแลในสิ่งที่เราจะดูแลได้ พยายามหยุดปัญหาที่ต้นทาง ไม่ใช่รอธุรกิจไปแล้วถึงมารักษา ทุกอย่างให้การบ้าน รมว.คลัง ไปแล้ว

นายอุตตม กล่าวว่า มาตรการช่วยเหลือเอสเอ็มอี การสนับสนุนให้มีการปล่อยสินเชื่อให้กว้างขวาง ได้สั่งการไปที่บรรษัทค้ำประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ให้เตรียมออก PGS9 เพื่อช่วยสนับสนุนให้การปล่อยซอฟท์โลนของ ธปท. กว้างขวางขึ้น ซึ่งจำนวนเงิน บสย. กำลังหารือกับ สศค. คาดว่าจะเดินหน้าภายในไม่เกิน 2 สัปดาห์จะได้เห็นบางโครงการเริ่มออกมา

กองทุน สสว. เดินหน้าอยู่ เข้ากลั่นกรอง เข้า ครม. ต่อไป จะได้ชี้แจงในรายละเอียดถึงรูปร่างหน้าตาเป็นไง ในวงเงิน 5

สำหรับมาตรการกระตุ้นการบริโภคของกรมสรรพากร จะสนับสนุนแพ็คเกจท่องเที่ยว ตอนนี้บางอย่างมีคล้ายมาตรการชิมช้อปใช้อยู่ แต่ที่คุยกันวันนี้ ภาคการท่องเที่ยวยังมีความจำเป็นต้องขยายวง จะดูว่ามีอะไรเสริมได้อีก ไม่ใช่เรื่องที่คลังจะมานั่งคิดใหม่หมด เป็นเรื่องของท่องเที่ยว ลดหย่อนก็จะดูพร้อมกันว่ามาตรการไหนบ้าง ต้องเป็นชุด

“เราต้องไปดูว่า แพ็คเกจที่จะออกมาดึงให้คนใช้เงินในประเทศ และต้องไปช่วยพัฒนางาน ธุรกิจในระดับชุมชน เรื่องของผู้ประกอบการ โรงแรมโดยเฉพาะขนาดเล็ก ถ้าทำได้ช่วยให้คนไป เป็นประสบการณ์ใหม่ในการท่องเที่ยวท้องถิ่น เพื่อดึงเงินในกระเป๋าคนมีอยู่ มาตรการจะกระตุ้นอุปสงค์มากขึ้น ซึ่ง สศค. จะไปดู” นายอุตตม กล่าว