posttoday

"สมคิด" ชงมาตรการชุดใหญ่ ต่อลมหายใจเศรษฐกิจไทย 6 เดือน

02 เมษายน 2563

"สมคิด" ชงมาตรการกู้เศรษฐกิจชุดใหญ่ ออกทั้ง พ.ร.ก.กู้เงิน และพ.ร.บ.โยกงบ แสนล้าน

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าว่า กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ประเมินเศรษฐกิจไทยในขณะนี้ และเห็นว่าจำเป็นต้องเร่งออกมาตราการดูแลเศรษฐกิจชุดที่ 3 ซึ่งครอบคลุมทุกกลุ่ม ทั้งประชาชน กลุ่มเกษตรกรที่ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือ กลุ่มผู้ประกอบการรายใหญ่และรายเล็ก รวมถึงมาตรการในการดูแลเสถียรภาพตลาดเงินและตลาดทุน เนื่องจากภาพเศรษฐกิจจริงถูกโยงไปกับภาคตลาดเงินและตลาดทุน

ทั้งนี้ มาตรการพยุงเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ชุดที่ 3 จะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วาระพิเศษ ที่จะประชุมในวันที่ 3 เม.ย. 2563 พิจารณาเห็นชอบในหลักการว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจดังกล่าว จะดูแลในส่วนใดบ้าง ใช้งบประมาณเท่าไหร่ และจะใช้แหล่งเงินจากที่ไหนบ้าง ซึ่งจะมีทั้งการออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) และพระราชบัญญัติ (พรบ.) ในการจัดหาแหล่งเงินเพื่อใช้ตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่ ซึ่งยังไม่ขอบอกว่าเป็นจำนวนเท่าไหร่

"ถ้า ครม. เห็นชอบในหลักการมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดนี้ จะสามารถดูแลเศรษฐกิจไทยได้อีก 6 เดือน ประชาชนจะได้รับการช่วยเหลือ ผู้ประกอบการสามารถอยู่ต่อไปได้ โดยที่ยังรักษาสถานะการจ้างงานไว้ได้ และเสถียรภาพด้านตลาดเงินและตลาดทุนจะมีความมั่นคง เป็นเรื่องที่รัฐบาลมองไปข้างหน้า เป็นการเตรียมพร้อมไว้เลย โดยหาก ครม.วาระพิเศษเห็นชอบในหลักการ ก็จะเสนอให้ที่ประชุม ครม. พิจารณาในรายละเอียดอีกครั้งในวันที่ 7 เม.ย. นี้" นายสมคิด กล่าว

นายสมคิด กล่าวอีกว่า กรณีที่คาดว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะประกาศเคอร์ฟิว ห้ามคนออกจากบ้านตั้งแต่เวลา 22.00 - 04.00 น. นั้น ยังไม่ทราบในรายละเอียด และยังไม่มีความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้

ด้านนายอุตตม สาวนายน รมว.การคลัง กล่าวว่า แหล่งเงินที่จะใช้สำหรับดำเนินมาตรการดูแลเศรษฐกิจระยะที่ 3 จะมาจากงบประมาณ 2563 โดยจะมีการออกพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) โยกงบประมาณของทุกกระทรวง ในส่วนที่ไม่จำเป็นมาใช้ดำเนินการ โดยยืนยันว่าการโยกงบดังกล่าวนี้จะไม่ส่งผลกระทบกับการจ่ายเงินเดือนของข้าราชการและลูกจ้าง ซึ่งขณะนี้สำนักงบประมาณกำลังพิจารณาดำเนินการ จึงยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะมีจำนวนเงินเท่าใด

นอกจากนี้ จะมีการออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) กู้เงินภายในประเทศเพิ่มเติม เนื่องจากชุดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ระยะที่ 3 จำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมาก ส่วนจะใช้ต้องกู้เงินจำนวนเท่าไหร่นั้น สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กำลังดูรายละเอียด เพื่อเสนอให้ที่ประชุม ครม. วาระพิเศษเห็นชอบในหลักการ ก่อนเสนอให้ที่ประชุม ครม.ในวันที่ 7 เม.ย. อนุมัติชุดมาตรการ เพื่อให้มีผลในการดำเนินการต่อไป