posttoday

ขนส่งเข้มมาตรการคัดกรองผู้โดยสาร ย้ำมีไข้เกินกว่า37.5องศาห้ามเดินทางเด็ดขาด

29 มีนาคม 2563

กรมการขนส่งทางบก คัดกรองผู้โดยสารต่อเนื่องอย่างเข้มข้นเพื่อป้องกันการระบาดของไวรัสโควิด ย้ำหากพบมีไข้เกินกว่า 37.5 องศา ห้ามเดินทางโดยเด็ดขาด

นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยถึง การดำเนินการตามมาตรการปฏิบัติเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ตามนโยบายรัฐบาลว่า สำนักงานขนส่งจังหวัดทั่วประเทศ ได้ดำเนิการการตามมาตรการปฏิบัติเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สำหรับผู้ประกอบการขนส่งด้วยรถสาธารณะและผู้โดยสาร อย่างเคร่งครัด มีมาตรการคัดกรองผู้โดยสารทุกคนก่อนการเดินทาง

หากตรวจพบผู้โดยสารที่มีอุณหภูมิสูง เกินกว่า 37.5 องศาเซลเซียส ห้ามเดินทางโดยเด็ดขาด จัดที่นั่งภายในรถโดยสาร และที่นั่งคอยภายในสถานีขนส่งผู้โดยสารเว้นระยะห่างอย่างน้อย 1 เมตร ตามมาตรการ Social Distancing เพื่อป้องกันการติดต่อสัมผัส

นอกจากนี้ ให้จัดเตรียมคำถามสุขภาพ (แบบ ต.8-คค) เพื่อให้ผู้โดยสารกรอกข้อมูลอันเป็นประโยชน์ต่อการควบคุมโรคติดต่อ และรวบรวมส่งให้สำนักงานขนส่งจังหวัด ณ จุดสิ้นสุดการเดินทาง หรือต้องเตรียมไว้สำหรับให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบระหว่างการเดินทาง ตรวจสอบให้ผู้โดยสารทุกคนต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าก่อนขึ้นรถโดยสารและตลอดการเดินทาง

ด้านสำนักงานขนส่งจังหวัดอุดรธานี ร่วมกับ จังหวัดอุดรธานี องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการตามมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ความสะอาดโดยการฉีดพ่นฆ่าเชื้อและทำความสะอาดบริเวณช่องจำหน่ายตั๋ว ทางเดิน ที่นั่งพักคอย และบริเวณโดยรอบสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดอุดรธานี แห่งที่ 2 รวมถึงได้ประสานผู้ประกอบการรถโดยสาร ให้ทำความสะอาดทั้งภายในและภายนอกตัวรถโดยสารประจำทางอย่างสม่ำเสมอ และให้ดำเนินการตามประกาศกรมการขนส่งทางบกและมาตรการภาครัฐอย่างเคร่งครัด

นอกจากนี้ ผู้ประกอบการขนส่งภาคเอกชน (รถร่วม) ให้ความร่วมมือปฏิบัติตามมาตรการ Social Distancing จัดที่นั่งโดยสารเว้นระยะห่างอย่างน้อย 1 เมตร จัดให้มีน้ำยาแอลกอฮอล์ เจล หรือน้ำยาฆ่าเชื้อโรค สำหรับผู้โดยสารภายในรถ และพนักงานขับรถ ผู้ประจำรถ สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลาขณะปฏิบัติงาน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID 19) และสร้างความมั่นใจและความปลอดภัยให้กับประชาชนที่ใช้บริการเดินทางด้วยรถโดยสารประจำทางในกรุงเทพมหานคร