posttoday

สั่งห้ามเจ้าหน้าที่สังกัดกระทรวงอุตฯเดินทาง 11 ประเทศเสี่ยงติดไวรัสโควิด-19

28 กุมภาพันธ์ 2563

กระทรวงอุตสาหกรรมออกมาตรการป้องกันไวรัสโควิด-19  ห้ามเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด เดินทางไปยังประเทศที่มีความเสี่ยง เป็นระยะเวลา 3 เดือน

นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม  เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ออกประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม  เรื่องมาตรการป้องกันและการเฝ้าระวังการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (โควิด-19) อย่างมีประสิทธิภาพ และลดการแพร่กระจายของเชื้อโรคดังกล่าวมิให้ติดต่อไปยังบุคคลอื่น รวมทั้งเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของเจ้าหน้าที่และการดำเนินงานของกระทรวงอุตสาหกรรม

สำหรับมาตรการป้องกัน ของส่วนราชการและหน่วยงานในสังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม ดังนี้ 1. ให้เจ้าหน้าที่งดหรือหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังหรือแวะผ่าน (Transit) ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) เขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน เขตบริหารพิเศษมาเก๊า แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน สาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) ญี่ปุ่น มาเลเซีย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม สาธารณรัฐสิงค์โปร์ สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมัน สาธารณรัฐอิตาลี และสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน รวมทั้งประเทศ ที่อาจมีความเสี่ยงตามที่กระทรวงสาธารณสุขจะประกาศในอนาคต ระหว่างวันที่ 27 ก.พ.ถึงวันที่ 26 เม.ย. 2563 หรือตามที่กระทรวงสาธารณสุขจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง

2. เจ้าหน้าที่ซึ่งได้รับอนุมัติหรืออนุญาตให้เดินทางไปยังประเทศหรือพื้นที่ที่มีการระบาดของ โรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ไปแล้วก่อนวันที่ประกาศนี้มีผลใช้บังคับ ขอให้เจ้าหน้าที่ดังกล่าวพิจารณาทบทวนความจำเป็นของการเดินทางโดยการงดหรือเลื่อนการเดินทางออกไปให้พ้นระยะเวลา ที่กำหนด

ในกรณีที่มีเหตุจำเป็นอย่างยิ่ง และไม่สามารถงดหรือเลื่อนการเดินทางไปยังประเทศหรือพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ให้ระมัดระวังและปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขเพื่อไม่ให้เกิดการเจ็บป่วยหรือติดเชื้อ และเฝ้าระวังต่อเนื่องจนครบ 14 วัน เมื่อเดินทางกลับมาถึงประเทศไทยแล้ว

3. เจ้าหน้าที่ที่เดินทางกลับจากประเทศหรือพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้รายงานตัวต่อหัวหน้าส่วนราชการระดับกองหรือเทียบเท่าและในขณะปฏิบัติหน้าที่ราชการ ให้สวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันตลอดเวลา เฝ้าระวังตนเองเป็นพิเศษ หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ คนหนาแน่น รักษาร่างกายให้แข็งแรง พักผ่อนให้เพียงพอ หากมีไข้ เจ็บคอ หายใจเร็ว หายใจเหนื่อย หรือหายใจลำบาก หรืออาการอื่นๆ อันเป็นข้อบ่งชี้ของการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ต้องเข้ารับการตรวจรักษาพยาบาล ณ สถานพยาบาลที่กระทรวงสาธารณสุข กำหนดโดยทันที

4. ให้เจ้าหน้าที่ติดตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการต่างประเทศหรือรัฐบาล ในกรณีที่มีการประกาศคำแนะนำการเดินทางไปยังพื้นที่ที่มีการกักตัวผู้เดินทางออกจากประเทศไทย และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดต่อไป

5.ให้เจ้าหน้าที่ดูแลสุขภาพส่วนบุคคลด้วยการหมั่นล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอด้วยน้ำและสบู่หรือแอลกอฮอล์เจลล้างมือ ไม่นำมือมาสัมผัสตา จมูก ปาก โดยไม่จำเป็น ควรสวมใส่หน้ากากอนามัยที่สะอาด เมื่ออยู่ในสถานที่ที่มีคนอยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก ผู้ที่มีอาการไอ จาม ต้องใช้หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ

6. เพิ่มการดูแลอนามัยด้านสถานที่ของหน่วยงาน เช่น การเพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดพื้นทางเดินเข้า-ออกอาคาร ลิฟต์ ห้องน้ำ ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ ตรวจเช็คทำความสะอาดจุดสัมผัสสาธารณะด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ เช่น ปุ่มกดลิฟต์ ราวบันได ที่จับหรือลูกบิดประตู/อาคาร จัดให้มีบริการเจลล้างมือโดยเฉพาะจุดที่มีการเข้า-ออกอาคาร