posttoday

เร่งวางขายหน้ากากธงฟ้าห่อละ 10 บาท ผ่านร้านสะดวกซื้อ 1 ล้านชิ้น 1 หมื่นแห่ง

27 กุมภาพันธ์ 2563

กรมการค้าภายใน การันตี เดือนก.พ.จะมีหน้ากากออกมาจำหน่ายไม่ต่ำกว่า 10 ล้านชิ้นในตลาด เพิ่มจุดขายในร้านเซเว่น –มินิบิ๊กซี-โลตัสเอ็กเพรส 1 หมื่นสาขา ทั่วประเทศ

นายวิชัย  โภชนกิจ  อธิบดีกรมการค้าภายใน  เปิดเผยว่า กรมการค้าภายในได้เร่งระดมเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานในกระทรวงพาณิชย์เพื่อช่วยบรรจุหน้ากากอนามัยใส่ถุง ถุงละ 4 ชิ้นๆละ 2.50 บาท ราคาถุงละ 10 บาท เพื่อนำไปกระจายให้ถึงมือประชาชนทั่วประเทศ โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงระบาดของไวรัสโควิด-19 ให้ได้มากที่สุด พร้อมกับเพิ่มการกระจายผ่านร้านสะดวกซื้อ 7-eleven, มินิ บิ๊กซี, โลตัส เอ็กซ์เพรส รวมแล้วกว่า 10,000 สาขาทั่วประเทศ จากที่ก่อนหน้านี้ ได้เปิดจำหน่ายที่กระทรวงพาณิชย์ทุกวันทำการตั้งแต่เวลา 09.30 -16.30 น. หรือจนกว่าหน้ากากอนามัยที่นำมาขายในแต่ละวันจะหมด และกระจายผ่านร้านธงฟ้าในจังหวัดต่างๆ ประมาณ 1,198 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งจะทำให้ประชาชนหาซื้อหน้ากากอนามัยได้ง่ายขึ้น   

อย่างไรก็ตามภายในสัปดาห์นี้ จะเร่งกระจายหน้ากากอนามัยผ่านช่องทางที่ว่ามาให้ได้ 1 ล้านชิ้น ขณะนี้ได้ระดมคนจากทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงพาณิชย์เข้ามาช่วยบรรจุหน้ากากอนามัย  เพราะต้องการให้ประชาชนหาซื้อหน้ากากอนามัยได้ง่าย และราคาไม่แพง โดยประชาชนสามารถสังเกตที่หน้าถุงจะมีการแสตมป์ตราของร้านธงฟ้า ขายถุงละ 10 บาท ในถุงมี 4 ชิ้น และจำกัดการซื้อคนละ 1 ถุง หรือเพียง 4 ชิ้นเท่านั้น เพื่อให้ทุกคนหาซื้อได้

สำหรับการจัดหาหน้ากากอนามัยตอนนี้มีแนวโน้มดีขึ้นมาก หลังจากมีมาตรการทางกฎหมายบังคับใช้ ทั้งการกำหนดให้ผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายแจ้งสต็อกที่มีในครอบครอง ห้ามส่งออก และขอปันส่วนจากผู้ผลิตมาไว้ที่ศูนย์บริหารจัดการหน้ากากอนามัย ของกระทรวงพาณิชย์ เพื่อกระจายต่อให้หน่วยงานที่มีความจำเป็นต้องใช้ และประชาชน ทำให้ปัจจุบันในระบบมีผู้แจ้งสต็อกเข้ามารวม 30 ล้านชิ้น

“ขณะนี้มีหน้ากากอนามัยส่งเข้ามายังศูนย์บริหารจัดการหน้ากากอนามัยวันละประมาณ 5แสน ชิ้น ซึ่งได้จัดสรรให้กับองค์การเภสัชกรรม เพื่อกระจายต่อให้กับโรงพยาบาล 3.8 ล้านชิ้น, ร้านธงฟ้า 1.4 ล้านชิ้น,  การบินไทย  2.8 แสนชิ้น , สมาคมร้านขายยา 2 แสนชิ้น   โดยคาดว่าทั้งเดือนก.พ. จะกระจายได้ไม่ต่ำกว่า 10 ล้านชิ้น  ส่วนเดือนมี.ค.63 จะมีหน้ากากอนามัยเข้ามายังศูนย์ฯ ไม่น้อยกว่า 15 ล้านชิ้น" นายวิชัย กล่าว

นายวิชัย กล่าวถึง การดำเนินการกับผู้ที่ฉวยโอกาสค้ากำไรเกินควรนั้น ล่าสุดสามารถจับกุมแล้ว 48 ราย แบ่งเป็นในส่วนกลาง 39 ราย และต่างจังหวัด 9 ราย ซึ่งในจำนวนนี้ มี 30 ราย ได้ส่งดำเนินคดีความผิดตามมาตรา 29 พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 ในข้อหาค้ากำไรเกินควร มีโทษจำคุกสูงสุดไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ