posttoday

'อสมท' ปรับทิศธุรกิจ ปี'63 ตั้ง2สำนักใหม่รับยุคดิจิตอล

08 มกราคม 2563

อสมท กางแผนปี'63 เพิ่มธุรกิจใหม่ มองหารายได้อื่นจากดิจิตอล หลังตลาดมีเดียเริ่มทรงตัว ตั้ง 2 หน่วยธุรกิจ เสิร์ฟลูกค้าผู้ชมหันไปให้ความสนใจกับ Platform และรูปแบบ Contents ผ่านสื่อออนไลน์

อสมท กางแผนปี'63 เพิ่มธุรกิจใหม่ มองหารายได้อื่นจากดิจิตอล หลังตลาดมีเดียเริ่มทรงตัว ตั้ง 2 หน่วยธุรกิจ เสิร์ฟลูกค้าผู้ชมหันไปให้ความสนใจกับ Platform และรูปแบบ Contents ผ่านสื่อออนไลน์

นายเขมทัตต์ พลเดช กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปี 2563 อสมท ได้ ประกาศเดินหน้าปรับธุรกิจใหม่ โดยเพิ่มหน่วยธุรกิจอีก 2 ส่วน คือ 1.สำนักธุรกิจดิจิทัล นำ Content ใน Platform เดิม มาพัฒนาสู่ Platform ใหม่ ประกอบด้วย Contents ข่าวและข่าวบันเทิง Content เสียงจากวิทยุ 53 สถานี เพื่อขยายไปสู่ Podcast และ Radio Online

2.สำนักดิจิทัลแพลตฟอร์ม เน้นการสร้างมูลค่าเพิ่มกับ Digital Platform ที่มีโอกาสสร้างธุรกิจใหม่ๆ นอกเหนือจากธุรกิจมีเดียโทรทัศน์ โดยเปิดโอกาสเจรจากับ Partner ไทยและต่างประเทศ

'อสมท' ปรับทิศธุรกิจ ปี'63 ตั้ง2สำนักใหม่รับยุคดิจิตอล

นอกจากนี้ได้จัดตั้งฝ่ายงานเล็กๆเป็นกลุ่มทำงานแบบ Business Lab ชื่อ ฝ่ายพัฒนาโครงการใหม่ ( Growth project ) เป็นคณะทำงาน Fast track นวัตกรรมความคิดสร้างสรรค์ที่วิเคราะห์ธุรกิจใหม่ๆ ที่ไม่เกี่ยวกับธุรกิจเดิม เพื่อสร้างให้ธุรกิจดังกล่าวสามารถดำเนินการได้ด้วยตัวเองในอนาคต

การดำเนินการดังกล่าว เป็นการต่อยอดทั้งจากการผลิต Content ข่าวและอื่นๆ ที่มีอยู่แล้วเพื่อมุ่งสู่ธุรกิจ Data และ Information ที่มีรากฐานมาจาก Content ที่น่าเชื่อถือ และการหาพันธมิตรใหม่ๆ ที่เป็น Non broadcast อีกด้วย

สำหรับสถานการณ์ของอุตสาหกรรมสื่อในปัจจุบัน โดยเฉพาะสื่อดั้งเดิม เช่น สื่อหนังสือพิมพ์และสื่อโทรทัศน์มีอัตราการเติบโตของรายได้ที่ลดน้อยซึ่งเป็นผลมาจาก Disruptive technologyและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่หันมาใช้เทคโนโลยีในการรับชมข่าวสารผ่านอุปกรณ์รับชมแบบใหม่ผ่านเทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น เทคโนโลยี 5G,และ Super WIFI ส่งผลให้เม็ดเงินโฆษณาในสื่อดั้งเดิมลดลงโดยเฉพาะสื่อโทรทัศน์

ด้านรายการต่างๆ ของ อสมท ก็พบว่า ผู้บริโภคหันมาใช้ช่องทางการรับชมข้อมูล ข่าวสารออนไลน์มากขึ้น อาทิ รายการชัวร์ก่อนแชร์ ของสำนักข่าวไทย พบว่าระหว่างปี 2561-2562 มีผู้ติดตามรายการผ่านสื่อสังคมออนไลน์รวมมากกว่า 3 แสนราย นำเสนอข้อมูลในรูปแบบวิดีโอแล้วกว่า 1,300 ชิ้น

ดังนั้นการวางรากฐานพัฒนาธุรกิจให้สอดรับความต้องการในตลาดมากขึ้นจะช่วยลดความเสี่ยงด้านการแข่งขันของอุตสาหกรรมสื่อที่ทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น โดย อสมท มีนโยบายขับเคลื่อนองค์กรให้เป็น “Trusted Content & Platform เน้นการสร้าง Contents และ Platform ที่มีประโยชน์ เชื่อถือได้ให้เป็นแหล่งอ้างอิงความถูกต้อง

“ก้าวต่อไปของ อสมท จะไม่ได้เป็นเพียงธุรกิจโทรทัศน์หรือวิทยุ อสมท จะเดินหน้าสร้างรายได้จากธุรกิจดิจิตอล และธุรกิจใหม่ ซึ่งประกอบด้วย รายได้จาก Website และ Social Media,รายได้จากการขาย Contentและรับจ้างผลิตรายการ ทั้งในและต่างประเทศ, รายได้จากธุรกิจ Platform ใหม่ๆ เช่น WHAM และ Podcast,เพิ่มกลยุทธ์จาก MCOT Academy ที่เน้นพัฒนาหลักสูตรสำหรับการพัฒนาการสื่อสารด้านวิชาชีพ, หลักสูตร Media training และ Brand สำหรับผู้บริหารระดับสูงเพื่อกระจายความเสี่ยงจากธุรกิจดั้งเดิม โดยเชื่อว่าหากสามารถดำเนินการได้ตามแผนธุรกิจที่วางไว้ รายได้เฉลี่ยของ บมจ.อสมท ตั้งแต่ปี 2563 -2567 จะเพิ่มขึ้น”นายเขมทัตต์กล่าว

นายเขมทัตต์ กล่าวถึง ธุรกิจโทรทัศน์ ว่าอสมท ในปี 2563 ว่า ยังคงมีนโยบายสร้างสรรค์ Content ที่น่าสนใจ และบริหารค่าใช่จ่ายในการดำเนินการ โดยจะลดการผลิตรายการสดที่ผลิตเองส่วนหนึ่ง เพื่อควบคุมต้นทุนในฟรีทีวี และเน้นให้ทีมข่าวหันไปเปิดตลาดออนไลน์ มากขึ้น รวมทั้งร่วมผลิตรายการกับพันธมิตรมากขึ้น โดยในปี 2563 ช่อง 9 MCOT HD หมายเลข 30 จะยังคงเน้นความแข็งแกร่งด้านพันธมิตรผู้ผลิตรายการสารคดีวาไรตี้ระดับโลกจาก Discovery อาทิ รายการกลุ่มวิทยาศาสตร์ การทดลองเทคโนโลยีสุดล้ำ ที่ดูสนุก เร้าใจ และเข้าใจง่าย กลุ่มนิเวศวิทยาและธรรมชาติ ในรูปแบบสารคดีสัตว์ที่คนไทย ชื่นชอบจาก NHK ประเทศญี่ปุ่น ซีรี่ส์จาก BBC First ที่ได้รับความนิยมสูง ซีรี่ส์ดังจากประเทศจีนอย่าง The Lost Swordship (เซียนกระบี่เหนือยุทธภพ) และภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดระดับโลกจาก โซนี่ พิคเจอร์ส มาให้ชมทุกสัปดาห์

'อสมท' ปรับทิศธุรกิจ ปี'63 ตั้ง2สำนักใหม่รับยุคดิจิตอล

นอกจากนี้ยุทธศาสตร์ที่สำคัญในปี 2563 นี้ คือการทำ Co–Production กับพันธมิตรผู้ผลิตรายการระดับนานาชาติเป็นการร่วมกันผลิตระหว่างช่อง 9 MCOT HD หมายเลข 30 กับ Japan International Broadcasting Inc. (JIB) ประเทศญี่ปุ่น กับรายการท่องเที่ยวแนวใหม่ของสองวัย, ความร่วมมือกับ China Media group และ CCTV ประเทศจีน

รวมทั้งการลงทุนร่วมผลิตกับ Netflix ซึ่งเป็นการสร้าง Content รายการคุณภาพที่มีความน่าสนใจมากขึ้นอีกด้วย สำหรับด้านวิทยุ จะเน้นการนำ Content ที่มีอยู่ไปวางใน Platform ใหม่ๆ ทั้งวิทยุ Online, Podcast , Website และ Application ต่างๆ โดยจะบูรณาการให้เป็น Platform เดียว เพื่อสะดวกกับกลุ่มเป้าหมายในการค้นหาและเข้าถึงได้ง่าย มากขึ้น