เศรษฐกิจทรุดอีกสภาพัฒน์ฯหั่นจีดีพีเหลือ2.6%
สภาพัฒน์เตือนรัฐบาลต้องออกมาตรการกระตุ้นเพิ่มก่อนสิ้นปี ไม่เช่นนั้นเศรษฐกิจโตไม่ได้ 2.6%
สภาพัฒน์เตือนรัฐบาลต้องออกมาตรการกระตุ้นเพิ่มก่อนสิ้นปี ไม่เช่นนั้นเศรษฐกิจโตไม่ได้ 2.6%
นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สภาพัฒน์ฯ) แถลงการขยายตัวเศรษฐกิจ (จีดีพี)ไตรมาส 3/2562 ขยายตัว 2.4% ขยายตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ที่ขยายตัว 2.3% โดยจีดีพี 9 เดือน โต 2.5% พร้อมปรับลดประมาณการณ์ทั้งปีจะขยายตัว 2.6% จากเดิมคาดว่าจะขยายตัวได้ 2.8%
"ภายใน 2 เดือนนี้ รัฐบาลต้องมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ไม่เช่นนั้นเศรษฐกิจทั้งปีนี้จะขยายตัวได้ไม่ถึง 2.6% เป็นการขยายตัวต่ำสุดในรอบ 5 ปี ตั้งแต่ปี 2557 ที่ขยายตัว 1%" นายทศพล กล่าว
สำหรับเศรษฐกิจไทยในปี 2563 คาดว่าจะขยายตัวได้ 2.7-3.7% ดีขึ้นจากปี 2562 โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากอุปสงค์ในประเทศจากการใช้จ่ายภาคครัวเรือน และการลงทุนของภาครัฐและเอกชน รวมทั้งการส่งออกที่คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้น ตามการคาดการของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ที่คาดว่าเศรษฐกิจโลกจะขยายตัวได้ 3.4% รวมถึงผลจากการปรับตัวจากมาตรการกีดกันทางการค้า และแนวโน้มค่าเงินบาทที่ไม่แข็งค่าเท่าปี 2562 โดยคาดว่าการส่งออกในปี 2563 จะขยายตัวได้ 2.3% จากปี 2562 ที่ชะลอตัวเพิ่มขึ้นที่ -2% จากคาดการณ์เดิมที่ -1.2%
ทั้งนี้ การบริหารนโยบายเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปี 2562 และ ปี 2563 ควรให้ความสำคัญกับ
1. การขับเคลื่อนการส่งออกไม่ให้ต่ำกว่า 3%
2. ขับเคลื่อนภาคการท่องเที่ยวให้สามารถขยายตัวสนับสนุนเศรษฐกิจภาพรวมได้ต่อเนื่อง
3. รักษาแรงขับเคลื่อนการขยายตัวทางเศรษฐกิจและการใช้จ่ายภาครัฐ ผ่านการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ให้ไม่ต่ำกว่า 92.3% งบประจำไม่ต่ำกว่า 98% งบลงทุนไม่ต่ำกว่า 70% งบเหลื่อมปีไม่ต่ำกว่า 73% และงบลงทุนรัฐวิสาหกิจไม่ต่ำกว่า 80%
4. สร้างความเชื่อมั่นและสนับสนุนการขยายตัวการลงทุนเอกชน
5. ดูแลเกษตรกร แรงงาน ผู้มีรายได้น้อย วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และเศรษฐกิจฐานราก