posttoday

คลังเบรก"ศักดิ์สยาม"แยกสัญญาประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม2แสนล้าน

10 พฤศจิกายน 2562

ชงครม.เคาะเปิดประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้มภายในสิ้นปีนี้ ด้าน BEM หนุนรัฐเปิดประมูลสัญญาเดียว

ชงครม.เคาะเปิดประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้มภายในสิ้นปีนี้ ด้าน BEM หนุนรัฐเปิดประมูลสัญญาเดียว

นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กล่าวว่า ในส่วนของโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมระยะทาง 35.9 กิโลเมตร วงเงิน 2.2 แสนล้านบาท กระทรวงการคลังได้ทำความเห็นตอบกลับไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแล้ว โดยเห็นด้วยที่จะให้ดำเนินการโครงการดังกล่าวในรูปแบบเอกชนร่วมลงทุน (PPP) ทั้งในส่วนของงานโยธาและเดินรถที่เป็น 1 สัญญาตามแผนเดิมไม่ต้องแบ่งแยกสัญญางานโยธาและงานบริหารการเดินรถ แม้การกู้เงินมาลงทุนงานโยธาของเอกชน จะมีดอกเบี้ยสูงกว่าภาครัฐ แต่ก็ควรเปิดให้เอกชนร่วมทุนงานโยธาเช่นเดิม

อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะสามารถเสนอเรื่องโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มดังกล่าว ให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาได้ภายในสิ้นปีนี้ โดยมีกำหนดเปิดให้บริการในปี 2566 และจะถือเป็นรถไฟฟ้าสายแรกที่เชื่อมโยงกรุงเทพฝั่งตะวันออกสู่ใจกลางเมือง

ด้านนายวิทูรย์ หทัยรัตนา รองกรรมการผู้จัดการ บริษัททางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพจำกัด (มหาชน) หรือ BEM กล่าวว่ารถไฟฟ้าสายสีส้มเป็นอีกโครงข่ายประสิทธิภาพที่มีประสิทธิภาพสำหรับการเดินทางของผู้โดยสารและการลงทุนในโครงการ เป็นเส้นทางที่มีจุดตัดกับรถไฟฟ้าแทบทุกสายเชื่อมต่อฝั่งตะวันออก-ตะวันตกของกรุงเทพ เริ่มตั้งแต่มีนบุรีผ่านใจกลางเมืองหลวงจากนั้นผ่านย่านเมืองเก่าแล้วไปสิ้นสุดที่ฝั่งกรุงธนบุรี สถานีบางขุนนนท์ คาดว่าจะมีผู้โดยสารใช้จำนวนมาก เป็นปัจจัยบวกในการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ด้วย ซึ่ง BMN ก็พร้อมดูแล อีกทั้งเส้นทางนี้เป็นแบบใต้ดินถึง 75% ดังนั้น BEM จึงมั่นใจเรื่องการแข่งขันประมูลเพราะมีประสบการณ์บริหารรถไฟฟ้าใต้ดินมาถึง 15 ปี

อย่างไรก็ตามสนับสนุนให้รัฐบาลประมูลโครงการแบบ PPP สัญญาเดียวคือรวมก่อสร้างและบริหาร เนื่องจากจะทำให้ต้นทุนต่ำลงเพราะไม่ต้องสิ้นเปลืองเรื่องงานออกแบบก่อสร้างที่เกินจำเป็น โดยเอกชนที่ชนะประมูลสามารถเลือกออกแบบสถานีและรายละเอียดการก่อสร้างให้เหมาะกับระบบรถไฟฟ้าที่จะนำมาใช้ ส่งผลให้งานก่อสร้างและเดินรถเป็นไปในทิศทางเดียวกัน

ขณะที่นายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน รองปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการเป็นประธานการประชุมการขออนุญาตเข้าใช้พื้นที่ภายใต้โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันออกช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรีว่า ในที่ประชุมได้มีการพิจารณาหารือเกี่ยวกับแนวทางการการแก้ไขปัญหาการเข้าพื้นที่ก่อสร้างในบางพื้นที่ที่ยังติดปัญหา อาทิ พื้นที่หน่วยงานราชการบางส่วนตามแนวเส้นทางของโครงการ โดยหลังจากนี้ อาจจะต้องมีการทำหนังสือทางราชการขอเข้าพื้นที่และย้ายระบบสาธารณูปโภคบางส่วน เพื่อให้โครงการสามารถเดินหน้าการก่อสร้างต่อไปได้ แต่อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นยังถือว่าการดำเนินโครงการดังกล่าว ยังไม่มีความล่าช้ากว่าแผนมากนัก เพียงติดปัญหาทางด้านงานโยธาบางส่วนเท่านั้น

รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม ระบุว่า ก่อนหน้านี้ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม กล่าวว่า จากความเห็นของกระทรวงการคลังนั้น รายงานว่า หากรัฐบาลเป็นผู้ดำเนินการในส่วนของงานโยธาเอง จะทำให้มีมูลค่าของโครงการที่ถูกลงไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท โดยใช้กรอบในการพิจารณา ที่จะต้องเรียงลำดับความสำคัญ เพื่อตอบโจทย์ 3 กลุ่มหลักที่มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stakeholder) คือ ลำดับที่ 1 ประชาชนจะต้องได้ประโยชน์สูงสุด และรับภาระน้อยที่สุด โดยเฉพาะในส่วนของอัตราค่าโดยสาร ลำดับที่ 2 รัฐจะต้องมีการลงทุนน้อย และลำดับที่ 3 เอกชนที่มาลงทุนจากรัฐจะต้องได้รับผลตอบแทน