posttoday

เปิดใจ "เอกนิติ" ลาเก้าอี้ประธานการบินไทย "แดนขุนทรัพย์สนธยา"

03 พฤศจิกายน 2562

เปิดเบื้องลึกเบื้องหลังการลาออกจากประธานบริษัทการบินไทยของ "เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ"

เปิดเบื้องลึกเบื้องหลังการลาออกจากประธานบริษัทการบินไทยของ "เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ"

ทั้งนี้ บริษัท การบินไทย แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2562 ว่า นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ประธานกรรมการบริษัทฯ ได้ลาออกจากตำแหน่งกรรมการบริษัทฯ มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.62 เป็นต้นไป

ทั้งนี้ พลอากาศเอก ชัยพฤกษ์ ดิษยะศริน รองประธานกรรมการ ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการ แทนนายเอกนิติ ที่ลาออกไป

นายเอกนิติ ได้เปิดเผยกับโพสต์ทูเดย์ ว่า การตัดสินใจลาออกจากประธานบริษัทการบินไทย ไม่ได้มาจากปัญหาฝ่ายการเมืองกดดันให้ลาออก แต่การลาออกครั้งนี้เป็นนโยบายของกระทรวงการคลัง ที่มีผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงการคลังขึ้นมาใหม่จำนวนมาก จึงต้องมีการปรับผู้แทนที่จะนั่งเป็นกรรมการหรือประธานกรรมในรัฐวิสาหกิจใหม่ทั้งหมด

"การลาออกไม่ได้มีการเมืองกดดันให้ผมลาออก แต่เป็นเรื่องของกระทรวงการคลังที่จะปรับผู้บริหารของกระทรวงที่เข้าไปนั่งเป็นกรรมการรัฐวิสาหกิจแต่ละแห่งให้เหมาะสม โดยก่อนหน้านี้ได้แต่ตั้งนายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต ไปนั่งเป็นประธานธนาคารออมสิน ซึ่งก็จะมีการแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูงของคลังคนอื่นๆ ตามมาต่อเนื่อง ในส่วนของผมยังนั่งเป็นประธานคณะกรรมการธนาคารกรุงไทย และรัฐวิสาหกิจแห่งใหม่แทนบริษัทการบินไทย แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้" นายเอกนิติ กล่าว

นายเอกนิติ กล่าวว่า ในช่วงที่นั่งเป็นประธานคณะกรรมการบริษัทการบินไทย ได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่และเต็มความสามารถ หน้าที่ของกรรมการบริษัทการบินไทยช่วงที่ผ่านมา คือ การแก้ปัญหาของบริษัทตามแผนฟื้นฟูกิจการ ซึ่งได้มีการทำตามแผน มีการทำแผนกลยุทธ์ เสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว เหลือแต่เพียงฝ่ายบริหารนำไปให้เกิดขึ้นจริงในทางปฏิบัติ

สำหรับแผนการซื้อฝูงบินใหม่จำนวน 38 ลำ แบ่งเป็น 2 ช่วง คือ 25 ลำ และ 13 ลำ มูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นเรื่องที่มีความสำคัญมาก ก่อนที่จะลาออกจากเป็นประธาน ได้มีมติของกรรมบริษัทการบินไทยชัดเจนให้ทบทวบเรื่องนี้ใหม่ และให้นำกลับมาเสนอคณะกรรมการเห็นชอบใหม่ภายใน 6 เดือน

สาเหตุที่ต้องมีการทบทวนแผน เนื่องจากสถาน์การเศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจภูมิภาคเปลี่ยนไปมาก เดิมที่ประเมินจะซื้อฝูงบินใหม่ มีการคาดกันว่า เศรษฐกิจภูมิภาค โดยเฉพาะเศรษฐกิจจีน จะเป็นตัวนำเศรษฐกิจของโลก ซึ่งหลังจากมีสงครามการค้าทุกอย่างเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว เศรษฐกิจจีนไม่ได้ขยายตัวได้ดีอย่างที่เคยคิดไว้ และเศรษฐกิจโลกก็ขยายตัวชะลอกว่าที่คาด ล้วนแต่ส่งผลกระทบกับการดำเนินการของบริษัทการบินไทย ที่จะจัดฝูงบินให้เหมาะสมและเกิดความคุ้มค่ามากที่สุด

"คณะกรรมการบริษัทการบินไทย เห็นว่าการซื้อฝูงบินใหม่ไม่ควรรีบตัดสินใจท่ามกลางสถานการณ์สมมติฐานเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม การวางจุดเครื่องบินก็ต้องเป็นจุดที่มีเศรษฐกิจเติบโตอย่างแท้จริง จึงได้ให้มีการทบทวนเรื่องซื้อฝูงบินใหม่ให้มีความเหมาะสมและเกิดความคุ้มค่ากับบริษัททมากที่สุด" นายเอกนิติ กล่าว

อดีตประธานกรรมการบริษัทการบินไทย กล่าวว่า หน้าที่ของกรรมการบริษัทการบินไทย นอกจากดูเรื่องนโยบายและแผนยุทธศาสตร์ของบริษัทแล้ว ยังมีหน้าที่ประเมินผลการปฏิบัติงานของ ดีดี การบินไทย ซึ่งมีการประเมินปีละ 2 ครั้ง ในการประเมินครั้งแรกที่ผ่านมาถือว่าสอบผ่าน ส่วนการประเมินครั้งที่ 2 ของปีนี้ เป็นหน้าที่ของประธานกรรมการคนใหม่ และคณะกรรมการของบริษัทการบินไทยจะเป็นผู้ประเมิน