posttoday

ชงรัฐเพิ่มหลักสูตรดูแลผู้สูงวัย พร้อมสร้างคนป้อนภาคอุตสาหกรรมขับเคลื่อนไทยแลนด์4.0

03 ตุลาคม 2562

หอการค้าไทยเสนอพัฒนาบุคลากรป้อนภาคอุตสาหกรรม แนะเปิดหลักสูตรดูแลผู้สูงวัย ส่งเสริมเอสเอ็มอีเพิ่มทักษะ หนุนรัฐพัฒนาเศรษฐกิจด้วยแนวคิด BCG

หอการค้าไทยเสนอพัฒนาบุคลากรป้อนภาคอุตสาหกรรม แนะเปิดหลักสูตรดูแลผู้สูงวัย ส่งเสริมเอสเอ็มอีเพิ่มทักษะ หนุนรัฐพัฒนาเศรษฐกิจด้วยแนวคิด BCG

นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยภายหลังนำคณะกรรมการหารือร่วมกับ นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม หรือ อว. เพื่อนำเสนอประเด็นต่างๆ ของภาคเอกชนต่อการผลักดันเศรษฐกิจ โดยประเด็นหารือที่สำคัญคือ1. การเตรียมความพร้อมด้านบุคลากรเพื่อรองรับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 เสนอให้มีการจัดทำระบบศูนย์กลางประสานความร่วมมือ (Clearing House)เพื่อนำข้อมูลด้านความต้องการกำลังคนของภาคอุตสาหกรรม ภาคการค้า ภาคบริการ และข้อมูลด้านหลักสูตรของสถาบันการศึกษาต่างๆ มาพิจารณาร่วมกัน เพื่อให้สอดคล้องกับตามความต้องการที่แท้จริง

รวมทั้งเสนอการจัดทำหลักสูตรดูแลผู้สูงอายุแบบเชิงลึกและหลักสูตรบริหารจัดการสถานประกอบการดูแลผู้สูงอายุ สำหรับการยกระดับทักษะและความรู้ (Upskill Reskill)ขอให้หน่วยงานภายใต้ อว. เป็นกลไกพัฒนาทักษะเรียนรู้แก่ผู้ที่ทำงานแล้ว เพื่อรองรับลักษณะงานที่เปลี่ยนแปลงโดยสามารถนำค่าใช้จ่ายจากการพัฒนาทักษะตนเองมาลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ 2 เท่า

ทางกระทรวงฯ เห็นด้วยกับข้อเสนอของหอการค้าและมีความเห็นว่าในด้านหลักสูตรจะให้ความสำคัญทั้งหลักสูตรสำหรับเด็กเล็กและผู้สูงวัย ส่วนในด้านการพัฒนาทักษะ Upskill Reskill นั้นควรดูแลทั้งกลุ่มคน ที่อยู่ในระบบและกลุ่มที่ต้องการเปลี่ยนลักษณะอาชีพ (Career Migration) โดยจัดแบ่งเป็นประเภท Degree และ Non Degree และให้ความสำคัญกับความรู้พื้นฐานของการบริหารจัดการและการสร้างผู้นำชุมชน สำหรับค่าใช้จ่ายในการพัฒนาทักษะนั้นจะได้รับการลดหย่อนภาษี 2.5 เท่า และกำลังพิจารณาการ ออก education coupon เพิ่มอีกทางหนึ่ง

2. การส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEขอให้ปรับปรุงกฎระเบียบและการปฏิบัติตามเงื่อนไขของกองทุนด้านวิจัยและนวัตกรรม พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการเข้าใจชัดเจนเพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่สนับสนุนการประกอบธุรกิจได้อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งการจัดตั้งกองทุน Startup Fund ของกระทรวงฯ เป็นประโยชน์อย่างมาก ในส่วนการส่งเสริม Talent Mobility ควรส่งเสริมให้อาจารย์และนักศึกษาได้มีโอกาสทำงานระหว่างเรียน เพื่อเรียนรู้และเพิ่มทักษะจากการปฏิบัติงานจริง รวมทั้ง สนับสนุนทุนให้แก่นักศึกษา และอาจารย์ในการทำ Startup IDE

ด้านการส่งเสริม Local economy เสนอให้ส่งเสริมนักธุรกิจรุ่นใหม่ หรือ YEC(Young Entrepreneur Chamber) รวมกลุ่มเป็นนวัตกรรมชุมชน และสนับสนุนการสร้างแพลตฟอร์มให้เกิดการแข่งขันนวัตกรรม รวมถึงสร้างช่องทางการเข้าถึงงานวิจัยและนวัตกรรม โดยขอให้ Regional Science Park ที่อยู่ในภูมิภาคทำงานเชื่อมโยงกับมหาวิทยาลัยในพื้นที่ หอการค้าจังหวัด และ YEC เพื่อให้เกิดการพัฒนาสินค้าและบริการ โดยใช้งานวิจัยและนวัตกรรมใหม่ๆ ที่สอดรับกับความต้องการของตลาดผู้บริโภค

สำหรับปัญหาการเข้าถึงแหล่งเงินทุนนั้น กระทรวงฯทราบปัญหาและอยู่ระหว่างปรับปรุงหลักเกณฑ์สำหรับกลุ่มจังหวัดให้น้อยลงเพื่อให้รับเงินกองทุนได้ง่ายขึ้น และได้มีการจัดตั้งกองทุน Young Startup Fundรองรับการพัฒนา Startup IDE ไว้แล้ว พร้อมทั้งได้วางแนวทางการพัฒนา IDE (Innovation Driven Enterprise)เป็น 3 กลุ่มคือ 1. Startup IDE 2. กลุ่ม SME ที่จะพัฒนาเป็น IDE และ 3. กลุ่มชุมชนนวัตกรรมซึ่งจะมีนักศึกษาและอาจารย์ร่วมด้วย โดยทั้ง 3 กลุ่มจะขอให้กลุ่ม YECของหอการค้าซึ่งมีเครือข่าย
อยู่ทั่วประเทศร่วมเป็นผู้สนับสนุน สอดคล้องกับแนวทางของหอการค้า โดยจะจัดการประชุมกับกลุ่ม YEC ของหอการค้าเพื่อหาแนวทางการทำงานร่วมกันในเดือนตุลาคมนี้

3. การขับเคลื่อนเศรษฐกิจสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนด้วยกลไก BCG(Bioeconomy , Circular Economy , Green Economy)หอการค้าไทยสนับสนุนการสร้างรายได้และลดความเหลื่อมล้ำเพื่อยกระดับศักยภาพและสร้างรายได้เกษตรกรให้สูงขึ้น โดยสนับสนุนงบประมาณจากกระทรวงฯ ในการทำวิจัย เพื่อพัฒนาสินค้าเกษตร โครงการ 1 ไร่ 1 ล้าน และจัดตั้งคณะทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ในการกำหนดพื้นที่เป้าหมาย พืชเป้าหมาย และระยะเวลาดำเนินการ