posttoday

‘เซ็นทารา’ ร่วมทุนญี่ปุ่นหมื่นล้านสะท้านโอซาก้า

02 ตุลาคม 2562

เปิดโรงแรมแห่งแรก 'เซ็นทารา แกรนด์ โอซาก้า' รับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวญี่ปุ่นโตพุ่งต่อเนื่อง พร้อมทบทวนแผนธุรกิจ 5 ปีลงทุนกว่า 2.7 หมื่นล้านบาท ขยายโรงแรม130 แห่งทั้งใน/ต่างประเทศ

เปิดโรงแรมแห่งแรก 'เซ็นทารา แกรนด์ โอซาก้า' รับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวญี่ปุ่นโตพุ่งต่อเนื่อง พร้อมทบทวนแผนธุรกิจ 5 ปีลงทุนกว่า 2.7 หมื่นล้านบาท ขยายโรงแรม130 แห่งทั้งใน/ต่างประเทศ

‘เซ็นทารา’ ร่วมทุนญี่ปุ่นหมื่นล้านสะท้านโอซาก้า

นายธีระยุทธ จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา (CHR) เปิดเผยว่า บริษัทร่วมลงทุนกับพันธมิตรประเทศญี่ปุ่น 2 ราย คือ Taisei Corporation และ Kaden Realty & Development พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ โอซาก้า มูลค่ารวมกว่า 1 หมื่นล้านบาท ในย่านนัมบะ เมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น

โดยกลุ่มเซ็นทาราฯ ลงทุนสัดส่วน 51% กลุ่มTaisei สัดส่วน 25.5% และ กลุ่มKaden สัดส่วน 23.5% โดยจัดตั้งบริษัทเซ็นทารา เจแปน ดูแลโครงการฯ เริ่มก่อสร้างในต้นปี 2563 คาดแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการราวปี 2567

สำหรับโครงการโรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ โอซาก้า วางตำแหน่งเป็นโรงแรมหรูหราระดับ 5 ดาว สูง 34 ชั้น ขนาด 515 ห้องพัก เป็นโรงแรมแห่งแรกของกลุ่มเซ็นทาราฯ ที่เข้าไปลงทุนเพื่อให้บริการในญี่ปุ่น ซึ่้งถือเป็นเป็นประเทศลำดับที่ 14 โดยวางเป้าหมายเป็นประตู(เกต เวย์) ยุทธศาสตร์การดำเนินธุรกิจโรงแรมห้องพัก ในตลาดท่องเที่ยวญี่ปุ่น เพื่อขยายต่อไปยังเมืองอื่นๆ ในอนาคต เช่น เกียวโต โตเกียว และ ฮอกไกโด เป็นต้น

“เบื้องต้นโรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ โอซาก้า จะก่อสร้างเสร็จพร้อมเปิดให้บริการได้ก่อนงานมหกรรม Expo Japan 2025 ที่เตรียมจัดขึ้นในปี 2568 รวมถึงยังเพื่อรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมายังประเทศญี่ปุ่นเป็นจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆทุกปี โดยเฉพาะจากเกาหลี จีน และไทย ซึ่งในปี 2561 ประเทศญี่ปุ่นมีนักท่องเที่ยวราว 31 ล้านคน เป็นนักท่องเที่ยวไทยประมาณ 1.1 ล้านคน" นายธีระยุทธ กล่าว

ขณะที่กลุ่มเป้าหมายโรงแรมฯดังกล่าว รองรับทั้งกลุ่มนักท่องเที่ยว และนักธุรกิจที่เข้ามาพำนักในเมืองโอซาก้า ที่พบว่ามีแนวโน้มเพิ่มสูงอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากอัตราการจองที่พักโรงแรมเฉลี่ยอยู่ที่ 80%

นายธีระยุทธ เสริมว่าขณะนี้ CHR อยู่ระหว่างทบทวนแผนลงทุนธุรกิจใหม่ จากเดิมกำหนดระยะเวลาระหว่างปี 2561-2565 ในการขยายธุรกิจโรงแรมฯทั้งสิ้นจำนวน 130 แห่งทั้งในและต่างประเทศ โดยเตรียมงบลงทุนประมาณ 2.7 หมื่นล้านบาท โดย CHR จะขยายระยะเวลาลงทุนธุรกิจเพิ่มออกไปอีก 1-2 ปี จากแผนเดิม เพื่อกระจายความเสี่ยงธุรกิจ และมีช่องว่าง(Gap)จากการไปร่วมลงทุนในธุรกิจใหม่เกิดขึ้น 

สำหรับการลงทุนธุรกิจโรงแรมฯ ตามแผนที่วางไว้จะให้ความสำคัญในการขยายตลาดไปยังต่างประเทศ เช่น ญี่ปุ่น กลุ่มประเทศเออีซี ตลาดท่องเที่ยวพรีเมียม โอเชียน (มัลดีฟ) และ กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง

นอกจากนี้ CHR ยังเตรียมงบฯราว 1,100 ล้านบาท โดยจะปิดเพื่อปรับปรุงโรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ บีช รีสอร์ท สมุย ระดับ5 ดาว ใหม่ภายใต้แบรนด์ เซ็นทารา รีเสิร์ฟ(Centara Reserve) วางตำแหน่งเป็นโรงแรมระดับลักชัวรี มีจำนวนห้องอยู่ที่ 184 ห้อง จากเดิมอยู่ที่ 203 ห้อง พร้อมปรับอัตราห้องพักเพิ่มขึ้นราว 30% เพื่อรองรับกำลังซื้อนักท่องเที่ยวระดับไฮเอนด์ที่เดินทางมายังเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี

"คอนเซปต์เซ็นทารา รีเสิร์ฟ จะมีความยูนีค หรูหรา มีเอกลักษณ์ และให้ความเป็นส่วนตัวพร้อมบริการระดับพิเศษรองรับนักท่องเที่ยวระดับบน คาดใช้ระยะเวลาปรับปรุงแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการราวปี 2565 " นายธีระยุทธ กล่าว

สำหรับสถานการณ์การท่องเที่ยวในประเทศไทย คาดว่าจะมีทิศทางเป็นบวกในไตรมาส4 ปีนี้ จากบรรยากาศการท่องเที่ยวที่เข้าสู่ช่วงไฮ-ซีซัน นักท่องเที่ยวเริ่มกลับเข้ามา แต่ยังไม่สามารถชดเชยได้กับในช่วง 9 เดือนของปีที่ผ่านมาได้

โดยในส่วนของ CHR คาดว่าจะมีอัตราการเข้าพักโรงแรมเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ประมาณ 80% ลดลงจากปีก่อนเฉลี่ยอยู่ที่ 82-83% และคาดว่าในภาพรวมธุรกิจจะมีอัตราการเติบโตหนึ่งหลัก

‘เซ็นทารา’ ร่วมทุนญี่ปุ่นหมื่นล้านสะท้านโอซาก้า