posttoday

'ศักดิ์สยาม' หวั่นขยายสัมปทานทางด่วนไม่คุ้มค่า

07 กันยายน 2562

เรียกกทพ. ชี้แจงข้อมูลตัวเลขสัญญาส่วนที่ 2 ต่อสัมปทาน 15 ปี เตรียมชงครม.ขอเปลี่ยนมือให้กระทรวงคมนาคมตัดสินใจ

เรียกกทพ. ชี้แจงข้อมูลตัวเลขสัญญาส่วนที่ 2 ต่อสัมปทาน 15 ปี เตรียมชงครม.ขอเปลี่ยนมือให้กระทรวงคมนาคมตัดสินใจ

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ความคืบหน้าเรื่องค่าชดเชยทางด่วนกับเอกชนว่า ภายหลังจากคณะกรรมาธิการวิสามัญ (กมธ.) มีมติเห็นชอบให้รัฐบาลขยายสัญญาทางด่วนให้กับบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด(มหาชน) หรือ BEM ระยะเวลา 30 ปีแบ่งเป็นสองสัญญาได้แก่ สัญญาที่ 1 ขยายสัมปทาน 15 ปีแลกกับยกเลิกข้อพิพาทค่าชดเชยมูลค่า 100,000 ล้านบาท พร้อมเงื่อนไขให้เอกชนแบ่งรายได้ให้กทพ. 60% ของรายได้ทั้งหมดและสามารถปรับค่าผ่านทางได้ทุก 10 ปี

ส่วนด้านสัญญาที่ 2 ขยายสัมปทาน 15 ปี พร้อมเงื่อนให้เอกชนลงทุนก่อสร้างทางด่วนขั้นที่ 2 (Double Deck) ระยะทาง 17 กม. มูลค่า 32,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตามตนยังไม่มั่นใจเรื่องการมอบสัญญาที่ 2 ให้เอกชนขยายสัมปทานอีก 15 ปีเพื่อแลกกับการลงทุนเพิ่มนั้นจะคุ้มค่าหรือไม่

ดังนั้นจึงต้องให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทย(กทพ.) มาชี้แจงข้อมูลว่าเหมาะสมกับตัวเลขมากน้อยแค่ไหน รายละเอียดการศึกษาเรื่องนี้เป็นอย่างไร ส่วนสัญญาที่ 1 ดูเหมาะสมแล้ว

นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า ในวันอังคารที่ 10 ก.ย. นี้ กระทรวงคมนาคมจะเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เรื่องการขอแก้มติ ครม.เดิมที่ให้อำนาจผู้ดำเนินการเรื่องค่าชดเชยค่าทางด่วน ได้แก่ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ และนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีมนรัฐบาลชุดเก่า

เนื่องจากปัจจุบันเปลี่ยนรัฐบาลแล้ว ทำให้อำนาจในการดำเนินการเรื่องนี้ไม่สามารถไปต่อได้ตามแนวทางบริหารงานราชการ ดังนั้นต้องแก้ไขเปลี่ยนเป็นมอบอำนาจให้กระทรวงคมนาคมดูแลเรื่องนี้ แต่ทั้งนี้กระทรวงคมนาคมก็ยังคงไม่มีอำนาจจัดการลงนามสัญญากับเอกชนเพราะต้องรอไฟเขียวจากรัฐบาลและการเห็นชอบของครม.เสียก่อน

ด้านแหล่งข่าวจากการทางพิเศษแห่งประเทศไทย(กทพ.) ระบุว่าการก่อสร้างทางด่วนชั้นที่ 2 นั้นเป็นการลงทุนที่สมเหตุสมผล เนื่องจากปัจจุบันาภาพการจราจรบนทางด่วนในชั่วโมงเร่งด่วนหนาแน่นมากบางวันถึงขั้นวิกฤติ ดังนั้นการก่อสร้างทางด่วนขั้นที่ 2 (Double Deck) พร้อมจุด-ขึ้นลง 7 แห่ง จะสามารถบรรเทาการจราจรได้แบบในต่างประเทศ

อีกทั้งยังไม่มีการเก็บค่าผ่านทางเพิ่มอีกด้วย เพื่อกระจายความหนาแน่นของรถบนทางด่วน สำหรับจุดที่มีปัญหาจราจรในขณะนี้มีอยู่ 7 จุด ได้แก่ 1.ช่วงหมอชิตขาเข้า 2.ช่วงงามวงศ์วาน-ด่านประชาชื่น 3.ต่างระดับพญาไท 4.ช่วงอโศกมนตรี 5.ช่วงอนุสาวรีย์ 6.ช่วงพระราม 9 และ7.ช่วงแยกไปบึงมักกะสัน

อย่างไรก็ตามสำหรับเงื่อนไขในการต่อสัญญาที่ 2 ซึ่งมีการก่อสร้าง Double Deck นั้น กทพ.จะต้องจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม(EIA)?ให้ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานนโยบายและแผน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) เสียก่อนจึงจะลงนามสัญญาที่ 2 ได้

หากไม่ได้รับความเห็นชอบ EIA เรื่องนี้ก็จะมีผลแค่สัญญาที่ 1 คือการต่อขยายสัมปทานแค่ 15 ปีแลกกับข้อพิพาททั้งหมด แต่จะไม่ได้ Double Deck เพื่อแก้รถติดบนทางด่วน