นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล กรรมการและเลขานุการ คณะรัฐมนตรี (ครม.) เศรษฐกิจ เปิดเผยว่า ที่ประชุมครม. เศรษฐกิจ ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เห็นชอบแพคเกจเร่งรัดการลงทุนและรองรับการ ย้ายฐานการผลิตสืบเนื่องจากผลกระทบของสงครามการค้า ตามที่ คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ เสนอ
ทั้งนี้มาตรการสำคัญได้แก่ บีโอไอให้สิทธิประโยชน์เพิ่มเติม โดยลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคล 50% เป็นเวลา 5 ปี เพิ่มเติมจากเกณฑ์ปกติที่ได้รับการยกเว้นภาษีนิติบุคคลอยู่แล้ว 5-8 ปี รวมแล้วจะได้แล้วลดภาษีสูงสุด 13 ปี
อย่างไรก็ตามโครงการที่จะได้รับสิทธิดังกล่าวต้องมีเงินลงทุนจริงอย่างน้อย 1,000 ล้านบาท ภายในปี 2564 โดยต้องยื่นขอรับการส่งเสริมภายในปี 2563 ซึ่งยังไม่สามารถประเมินได้ว่าจะมีนักลงทุนกี่รายเป็นวงเงินเท่าไรที่สนใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทย
"เรามั่นใจมาตรการส่งเสริมการลงทุนที่ให้เพิ่มขึ้นมาดีกว่าคู่แข่ง เพราะเป็นการเปิดกว้างให้ลงทุนได้ทั่วประเทศ แต่ยังบอกไม่ได้ว่าจะมีนักลงทุนมาลงทุนจำนวนมากแค่ไหน เป็นมูลค่าเงินลงทุนเท่าไร โดยจะเสนอให้ ครม. ชุดใหญ่เห็นชอบมาตรการนี้ในสัปดาห์หน้า" นายกอบศักดิ์
สำหรับมาตรการกระตุ้นการลงทุนส่วนอื่นๆ ได้แก่ ระดมปรับสภาพแวดล้อมทางธุรกิจผ่านหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งมาตรการภาษี การพัฒนาบุคลากร ปรับปรุงกฎระเบียบด้านการลงทุน และเร่งรัดให้ได้ข้อสรุปเรื่องการเจรจาเอฟทีเอ พร้อมทำตลาดเชิงรุกนายกอบศักดิ์ กล่าวว่า ที่ประชุม ครม.เศรษฐกิจยังไม่มีการพิจารณามาตรการกระตุ้นการส่งออก เนื่องจากนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ เดินทางไปต่างประเทศไม่ได้เข้าร่วมประชุม คาดว่าสัปดาห์หน้า ครม. เศรษฐกิจจะพิจารณามาตรการกระตุ้นการส่งออก และมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว หากหน่วยงานเสนอเข้ามาทัน