posttoday

ครม.มีมติประกันรายได้เกษตรกรแล้วนำร่อง"ข้าว-ปาล์ม"

27 สิงหาคม 2562

รมว.พาณิชย์เผยครม.เห็นชอบโครงการประกันรายได้เกษตรกรแล้ว นำร่อง "ข้าว - ปาล์ม" ส่วนยางพาราอยู่ระหว่างหารือรายละเอียด

รมว.พาณิชย์เผยครม.เห็นชอบโครงการประกันรายได้เกษตรกรแล้ว นำร่อง "ข้าว - ปาล์ม" ส่วนยางพาราอยู่ระหว่างหารือรายละเอียด

เมื่อวันที่ 27 ส.ค.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์หลังประชุมครม.เกี่ยวกับความคืบหน้าโครงการประกันรายได้เกษตรกรว่า ที่ประชุม ครม. ได้มีมติให้ความเห็นชอบแล้ว ให้ประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์มกิโลกรัมละ 4 บาท ที่น้ำมัน 18% ครัวเรือนละ 25 ไร่ ใช้วงเงิน 13,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ โดยข้อเท็จจริงจะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ราคาปาล์มในประเทศด้วย โดยถ้าสถานการณ์ราคาปาล์มในประเทศสูงขึ้นหมายความว่า เงินชดเชยส่วนต่างจะลดลงหรือเป็นภาระกับงบประมาณน้อยลง ซึ่งปรากฏว่า ก่อนหน้าที่ครม.จะมีมติวันนี้ มาตรการอื่นๆของกระทรวงพาณิชย์ และรัฐบาลที่ดำเนินควบคู่มานั้นไปช่วยกระตุ้นให้ราคาปาล์มสูงขึ้นเป็นลำดับจากเมื่อ 2-3 สัปดาห์ก่อนกิโลกรัมละ 2 บาทกว่า ปัจจุบันนี้เป็น 3.20-3.30 บาทแล้ว

สำหรับ มาตรการประกันรายได้ชาวสวนปาล์ม จะทำควบคู่ไปกับมาตรการคู่ขนาน คือ 1.เพิ่งประกาศใช้น้ำมันไบโอดีเซล บี 10 เป็นภาคบังคับโดยให้บี 7 กับบี 20 เป็นทางเลือกเท่านั้น เพื่อที่จะให้การใช้สัดส่วนน้ำมันปาล์มผสมกับดีเซลในสัดส่วนที่มากขึ้น จะช่วยให้ราคาปาล์มเข้าสู่ดุลยภาพราคาดีขึ้นอย่างมีเสถียรภาพวันนี้ได้หารือกับ รมว.พลังงานเรียบร้อยแล้ว

2.ให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตเร่งดำเนินการนำน้ำมันปาล์มไปใช้ผลิตกระแสไฟฟ้าซึ่งมีวงตัวเลขอยู่ 2.3 แสนตัน 3.จะเร่งรัดจัดการการลักลอบนำเข้าน้ำมันปาล์มที่ผิดกฎหมายที่จะทำให้ผลปาล์มในประเทศราคาตก 4.เร่งรัดการส่งออกน้ำมันปาล์มไปต่างประเทศโดยเฉพาะตลาดอินเดีย 5.จัดให้มีมิเตอร์วัดสต๊อกทำน้ำมันปาล์มในแต่ละพื้นที่หลายร้อยถังทั่วประเทศ 6.ให้มีการออกพระราชบัญญัติน้ำมันปาล์มไปตามลำดับเพื่อให้เกิดความยั่งยืน

นายจุรินทร์ กล่าวถึงประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวว่า ครม.ให้ความเห็นชอบตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอไปด้วยกัน รายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว คือ ประกันรายได้ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 10,000 บาท เปลือกเหนียว 12,000 ข้าวหอมมะลิ 15,000 บาท เข้าหอมมะลินอกพื้นที่ 14,000 บาท ข้าวหอมปทุมที่ 11,000 บาท ในจำนวนตามที่ได้เสนอไป โดยใช้วงเงินไม่เกิน 21,000 ล้านบาทฤดูผลิตนาปี ที่ผลผลิตกำลังจะทยอยเริ่มออกสู่ตลาด

อย่างไรก็ตาม จะมีการตั้งคณะอนุกรรมการ ที่นำโดยอธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ทั้งเรื่องปาล์มและข้าวเพื่อประกอบด้วยทั้ง 3 ฝ่ายเร่งรีบประชุมดำเนินการคิดค่าส่วนต่าง โดยเอาราคาประกันเป็นตัวตั้ง และเอาราคาตลาดในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งที่จะตกลงกันเป็นตัวลบ แล้วจะได้ส่วนต่างมาเป็นเงินชดเชยที่จะส่งเพื่อนตรงเข้ากับธนาคารของเกษตรกร คือ บัญชีเกษตรกรที่ ธกส.ต่อไป ซึ่งเกษตรกรได้มาขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตร อย่างถูกต้อง

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับวิธีประมาณการงบประมาณจะคำนวณจากข้อมูลการขึ้นทะเบียนเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันปี 2561 ของกรมส่งเสริมการเกษตร ได้แก่จำนวนเกษตรกร 296,662 ครัวเรือน และพื้นที่เพาะปลูก 4.077 ล้านไร่ สำหรับข้อมูลการขึ้นทะเบียนอยู่ระหว่างการดำเนินการปรับปรุงข้อมูล

สำหรับ เรื่องยางพารานั้นอยู่ในขั้นตอนของกระทรวงเกษตรฯเบื้องต้นได้มีการประชุมหารือกันระหว่าง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ กับ รมว.เกษตรฯ รวมทั้งฝ่ายที่เกี่ยวข้องขณะนี้อยู่ระหว่างการคำนวณพื้นที่เพาะปลูกและงบประมาณซึ่งคาดว่า จะตามมาเพื่อเข้าครม.ในเร็ววันนี้