posttoday

รุ่น 2 คลินิก 'ดร.สมชาย' เดินหน้าสู่สาย Deep Tech

27 สิงหาคม 2562

'ดร.สมชาย' แบรนด์ธุรกิจคลินิกรักษาสิว ที่อยู่ดูแลผิวหน้าคู่คนไทยมานานร่วม 48 ปี ก่อตั้ง โดย 'ดร.สมชาย เรืองวัฒนสุข' แพทย์ผิวหนังรุ่นแรกๆของเมืองไทย ที่เป็นผู้ริเริ่มคิดค้นผลิตภัณฑ์ดูแลปัญหาผิว ที่เหมาะสมกับคนไทย

'ดร.สมชาย' แบรนด์ธุรกิจคลินิกรักษาสิว ที่อยู่ดูแลผิวหน้าคู่คนไทยมานานร่วม 48 ปี ก่อตั้ง โดย 'ดร.สมชาย เรืองวัฒนสุข' แพทย์ผิวหนังรุ่นแรกๆของเมืองไทย ที่เป็นผู้ริเริ่มคิดค้นผลิตภัณฑ์ดูแลปัญหาผิว
ที่เหมาะสมกับคนไทย ด้วยในสมัยนั้นผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้ในท้องตลาดต้องนำเข้ามาจากต่างประเทศ

ขณะที่ ผลิตภัณฑ์เวชสำอางแบรนด์ 'ดร. สมชาย' ในช่วงแรกจะวางจำหน่ายเฉพาะในคลินิคผิวหนังของดร.สมชาย เท่านั้น ก่อนตั้งโรงงานภายใต้บริษัท เอส.เอส.แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด เพื่อผลิตสินค้าและวาง
จำหน่ายผลิตภัณฑ์ดร.สมชายไปทั่วประเทศในเวลาต่อมา

ล่วงมาถึงในปัจจุบัน 'ดร.สมชาย' นับเป็นอีกหนึ่งแบรนด์สินค้าไทย ที่มีความแข็งแกร่งไม่น้อยหน้าใครในตลาดเวชสำอาง ในวันนี้กิจการได้เดินหน้ามาสู่การบริหารของทายาทรุ่น 2 "แพทย์หญิง อรอินทร์
เรืองวัฒนสุข" กรรมการบริหาร บริษัท เอส.เอส. แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด ด้วยวิสัยทัศน์เตรียมผลักดันองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืนต่อไปได้ถึง 100 ปี

ให้ 'ความเชื่อมั่น' กุญแจไขความสำเร็จแบรนด์

แพทย์หญิงอรอินทร์ เรืองวัฒนสุข ผู้บริหารธุรกิจ กล่าวว่าการจะสร้างความยั่งยืนธุรกิจบริษัท และ ผลิตภัณฑ์แบรนด์ 'ดร.สมชาย' ให้เติบโตและยืนหยัดมีอายุได้ถึง 100 ปีนั้น ปัจจัยสำคัญ คือ การสานต่อวิสัย
ทัศน์องค์กร

โดยเริ่มมาตั้งแต่ยุคก่อตั้ง คือ 'การสร้างความเชื่อมั่น ด้วยผลิตภัณฑ์คุณภาพเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค และราคาที่เหมาะสม' ซึ่งเป็น Key of Success สำคัญของ 'ดร.สมชาย' ที่มาจากความ
มุ่งมั่นและทุ่มเทด้านการวิจัยและพัฒนา (อาร์แอน์ดี) ผลิตภัณฑ์แบรนด์ ดร.สมชาย ที่ในปัจจุบันมีมากกว่า 100 รายการ(SKUs)

ต่อยอดงานวิจัยสู่โลก 'Deep Tech'

สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจจากนี้ไป แพทย์หญิงอรอินทร์ กล่าวว่าบริษัทจะหันมาโฟกัสงานด้านวิจัยฯ ให้มากยิ่งขึ้นไปกว่าเดิม เพื่อก้าวไปสู่สู่ธุรกิจใหม่ Deep Technology Startup จากการนำกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชั้นสูง มามีส่วนร่วมในการทำธุรกิจใหม่ด้านเทคโนโลยีชีวภาพ (Bio-Technology) ภายใต้ Core Value องค์กร การทำผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด

ธุรกิจใหม่ในสาย Deep Tech ที่บริษัทสนใจ และทำวิจัยฯมาอย่างต่อเนื่อง คือ การค้นคว้าทางด้านเทคโนโลยีชีวภาพ ล่าสุดได้จดสิทธิบัตรยา Small Molecule เพื่อยับยั้งเซลล์มะเร็งที่ประเทศสหรัฐอเมริกา
และในปีนี้มีแผนการจดสิทธิบัตรยาต้นแบบที่ประเทศสหรัฐอมเริกา อีก2ตัว และตั้งเป้าภายใน 5 ปี จะจดเพิ่มให้ได้มากกว่า 5 ตัว จากแนวทางที่วางไว้ ยังจะเป็นก้าวสำคัญสำหรับบริษัทในประเทศไทย ที่ต้อง
การขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมระดับสูง

นอกจากนี้ บริษัทยังได้ลงทุนด้านวิจัยด้วยการเปิดตัวบริษัท ไบโอเทค ที่สิงคโปร์ เพื่อศึกษาวิจัยด้วยการใช้เทคนิคใหม่ CRISPR เพื่อพัฒนากระบวนการใหม่ในการสร้างโปรตีนรักษาโรค โดยมีกลุ่มทุนจาก
ประเทศบราซิล และประเทศดูไบให้ความสนใจร่วมทุนด้วย

"ความท้าทายจากนี้ไป คือ การสร้างวัฒนธรรมองค์กรใหม่มุ่งไปสู่รีเสิร์ชมากขึ้น ปัจจุบันบริษัทมีนักวิทยาศาสตร์ทำงานวิจัยจำนวน 10 คน เพื่อสนับสนุนให้องค์กรก้าวไปสู่ธุรกิจใหม่ด้านไบโอเทค ที่ขณะนี้อยู่
ระหว่างหา สตราติจิก พาร์ทเนอร์ และ ผู้สนใจร่วมทุนที่ ในตอนนี้มีเวนเจอร์ แคปิทัล ระดับโลกให้ความสนใจไม่ต่ำกว่า 20 ราย คาดว่าจะเห็นความชัดเจนในเชิงการผลิตตัวยาเพื่อให้คนสามารถเข้าถึงตัวยา
ได้ในราคาถูกภายใน 5- 10 ปีนี้ ซึ่งปัจจุบันในเอเชียมีเพียงประเทศจีน และ ญี่ปุ่น เท่านั้นที่ให้ความสนใจการพัฒนาในด้านนี้ ปัจจุบันมูลค่าตลาดยารักษาโรคมะเร็งด้วยเทคโนโลยีดังกล่าว มีมูลค่าไม่ต่ำกว่า
300,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา จากในปี 2015 มีมูลค่าอยู่ที่ 750 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ" " แพทย์หญิงอรอินทร์ กล่าว

'ดร.สมชาย' ปรับโครงสร้างองค์กรรับอนาคต

ต่อแนวทางการดำเนินธุรกิจในข้างต้น แพทย์หญิงอรอินทร์ กล่าวว่าองค์กรได้เตรียมปรับโครงสร้างใหม่ โดยจะวางให้ บริษัทเอส.เอส.แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด เป็น Holding Company และแตกธุรกิจ
ใหม่ในรูปแบบสตาร์ทอัพ เพื่อลงทุนและทำธุรกิจด้านไบโอเทค ในต่างประเทศ ซึ่งในปัจจุบันบริษัท มีพนักงานรวมกว่า 400 คน และ โรงงานอีกหนึ่งแห่งตั้งอยู่ในจังหวัดนนทบุรี พร้อมปรับรูปแบบการบริหาร
องค์กรในลักษณะ Agile การแบ่งส่วนรับผิดชอบการทำงานให้พร้อมส่งต่อ ไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา เช่นกัน

ขณะที่ 'ดร. สมชาย' จะยังเป็นแบรนด์หลักในการทำตลาดธุรกิจคลินิกดร.สมชาย ที่เปิดให้บริการในปัจจุบัน จำนวน 5 สาขา โดยในปีนี้ บริษัทวางเป้าหมายการเติบโตธุรกิจอยู่ที่ 15% จากธุรกิจคลินิก และการทำตลาดสินค้าใหม่ไม่ต่ำกว่า 10 SKUs ในปีนี้ โดยผลิตภัณฑ์แบรนด์ ดร.สมชาย มีสัดส่วนรายได้หลักจากผลิตภัณฑ์กลุ่มดูแลผิวหน้ากว่า 90% ทั้งในกลุุ่มสิว และ กลุ่มป้องกันแดด

แม้ว่าภาพรวมธุรกิจเครื่องสำอางในประเทศไทยมูลค่ากว่า 1.7 แสนล้านบาท (ข้อมูลจากยูโรมอนิเตอร์) มีอัตราการเติบโตลดลงในช่วงต้นปีที่ผ่านมา จากภาวะเศรษฐกิชะลอตัวที่ได้รับผลกระทบจากการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคที่ช้าลง

แนวทางธุรกิจภายใต้วิสัยทัศน์ของรุ่น 2 'ดร.สมชาย' ถือเป็นพิมพ์เขียวธุรกิจที่วางไว้นับจากนี้เพื่อก้าวสู่ไปสู่จุดหมายธุรกิจไทยที่มีอายุ 100 ปี