การท่าเรือฯ ยันสวัสดิการพนักงานการท่าเรือฯ เป็นไปตามกฎหมายกำหนด

ผอ.การท่าเรือฯ ทำหนังสือชี้แจงกรณีพนักงานประท้วงเป็นการรวมตัวกันโดยสงบ พร้อมพิจารณาปรับปรุงสิทธิประโยชน์อย่างรอบครอบ-สอดคล้องมติ ครม.

การท่าเรือแห่งประเทศไทย โดย เรือโท กมลศักดิ์ พรหมประยูร ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย ออกหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงกรณี สหภาพการท่าเรือฯ ยกพลประท้วงขอขึ้นค่าแรงขั้นต่ำตามนโยบายรัฐบาลวันละ 400 บาท โดยมีเนื้อหาดังนี้

การรวมตัวของสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ การท่าเรือแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม ที่ผ่านมา เป็นการรวมตัวกันโดยสงบ เพื่อให้กำลังใจในการทำงาน พร้อมทั้งยื่นข้อเสนอและติดตามเรื่องต่างๆ ต่อคณะกรรมการการท่าเรือฯ ในการพิจารณาในเรื่องสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ต่างๆของพนักงานที่ได้เคยมีการหารือร่วมกันในคณะกรรมการกิจการสัมพันธ์ของการท่าเรือฯ ซึ่งเป็นการปรับปรุงสวัสดิการของพนักงานการท่าเรือฯ ที่มีความเกี่ยวข้องกับการเงิน

คณะกรรมการการท่าเรือฯ และฝ่ายบริหารการท่าเรือฯ จึงจำเป็นต้องพิจารณาอย่างรอบครอบและสอดคล้องกับมติคณะรัฐมนตรีและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง อาทิ ค่ารักษาพยาบาล ค่าชุดปฏิบัติงาน และค่าช่วยเหลือบุตร ที่เป็นไปตามประกาศคณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ เรื่องมาตรฐานขั้นต่ำของสหภาพการจ้างในรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2549

ทั้งนี้สวัสดิการที่การท่าเรือฯ มอบให้แก่พนักงานการท่าเรือฯในปัจจุบันไม่ต่ำกว่ามาตรฐานที่กฎหมายกำหนด โดยประเด็นต่างๆเหล่านี้ ฝ่ายบริหารการท่าเรือฯ สหภาพฯ มีการประชุมและพิจารณาร่วมกันในคณะกรรมการกิจการสัมพันธ์ของการท่าเรือฯ เพื่อปรับปรุงให้มีความเหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจและค่าครองชีพในปัจจุบันมากขึ้น รวมทั้งอัตราค่าแรงขั้นต่ำของการท่าเรือฯ ก็จะพิจารณาให้มีความสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล ซึ่งจะไม่ต่ำกว่าอัตราค้าแรงขั้นต่ำกว่ากฎหมายที่กำหนด

ในส่วนของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของการท่าเรือฯ ดำเนินการตามพระราชบัญญัติกองทุน พ.ศ.2530 ประกอบกับข้อบังคับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพพนักงานการท่าเรือฯ ซึ่งจดทะเบียนแล้ว พ.ศ. 2548 ซึ่งเป็นไปตามนโยบายรัฐบาลที่จะลดภาระรายจ่ายด้านบำนาญสำหรับพนักงานที่เข้าหลังวันที่ 7 มิถุนายน 2548

สำหรับการดำเนินการโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน พัฒนาและประกอบการท่าเรืออเนกประสงค์คลองใหญ่ จังหวัดตราดนั้น เป็นการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่16 ตุลาคม 2561 ตามยุทธศาสตร์ชาติในการพัฒนาประเทศที่เกี่ยวข้องกับด้านคมนาคมขนส่งที่มุ่งเน้นการขยายขีดความสามารถด้านการขนส่งทางน้ำ สนับสนุนให้เกิดความเชื่อมโยงในอนุภูมิภาค และในอาเซียน ซึ่งการท่าเรือฯ อยู่ระหว่างดำเนินการศึกษาความเหมาะสมและเตรียมความพร้อมในการบริหารท่าเรือฯ ต่อไป