posttoday

รมว.คมนาคม สั่งเรียกเคลียร์ค่าโง่ทางด่วน

25 กรกฎาคม 2562

กทพ.ย้ำต้องขยายสัมปทาน ชี้หากเสียค่าโง่จนขาดทุนสุดท้ายต้องใช้ภาษีคนไทยมาอุ้มค่าโง่ เปิดดีลขยายสัมปทานลดค่าทางด่วน-สร้างทางขึ้นลงแก้รถติด

กทพ.ย้ำต้องขยายสัมปทาน ชี้หากเสียค่าโง่จนขาดทุนสุดท้ายต้องใช้ภาษีคนไทยมาอุ้มค่าโง่ เปิดดีลขยายสัมปทานลดค่าทางด่วน-สร้างทางขึ้นลงแก้รถติด

นายสุรงค์ บูลกุล ประธานคณะกรรมการ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย(กทพ.) เปิดเผยว่าความคืบหน้าการขยายสัมปทานทางด่วน 37 ปีเพื่อแลกกับการยุติปัญหาข้อพิพาทชดเชยค่าเสียหายมูลค่า 1.3 แสนล้านบาทนั้น ตนเตรียมเข้าพบ ?นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เพื่อชี้แจงถึงเหตุผลในการต่อขยายสัมปทานดังกล่าวเพื่อแลกกับคดีข้อพิพาททั้งหมด

โดยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาตนได้เข้าพบคณะกรรมาธิการมาแล้วเพื่อชี้แจงถึงเหตุผลและความจำเป็นในการต่อขยายสัมปทาน?ตามที่นายกรัฐมนตรีสั่งการให้ทำโดยภาครัฐไม่เสียประโยชน์และอำนวยความสะดวกให้ประชาชน ถือว่ากทพ.ทำหน้าที่จบแล้ว?หลังจากนี้เป็นเรื่องของฝ่ายนโยบายตัดสินใจก่อนเสนอเรื่ิองเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)เพื่อขออนุมัติต่อไปก่อนเจราจารายละเอียดกับเอกชน

"กทพ.มองว่าการต่อขยายสัมปทานตามแนวทางดังกล่าวนั้นเหมาะสมที่สุดแล้ว แม้บางฝ่ายจะมองว่าในระยะเวลามากกว่า 30 ปีการทางพิเศษจะมีรายได้ 7 แสนล้านบาท มีศักยภาพเพียงพอใช้หนี้จำนวน 1.3 แสนล้านบาทได้แบบสบายๆ" นายสุรงค์ กล่าว

แต่ทั้งนี้รายได้ดังกล่าวมีรายจ่ายราว 3 แสนล้านบาท เงินที่เหลือ 4 แสนล้านบาทต้องจ่ายคืนรัฐอีก 50% คิดเป็นเงิน 2 แสนล้านบาท สุดท้ายกทพ.เหลือรายได้ 2 แสนล้านบาทยังไม่รวมต้นทุนอื่นๆ อาทิ ต้นทุนขยายทางด่วนแก้รถติด ต้นทุนก่อสร้างทางขึ้น-ลงเพิ่มเติม รวมถึงต้นทุนพนักงาน เป็นต้น

ดังนั้นหากแพ้คดีข้อพิพาททุกคดี ซึ่งก็มีโอกาสสูง หากเป็นเช่นนั้นมองว่ารายได้ในแต่ละปีหากต้องมาทยอยชำระค่าชดเชยคดีละ 5-7 พันล้่านบาท จะส่งผลให้กทพ.ขาดทุนแน่นอน สุดท้ายต้องเป็นภาระของงบประมาณที่มาจากภาษีคนทั้งประเทศ ซึ่งต้องจ่ายเพื่ออุ้มต้นทุนของกทพ.

สุดท้ายเป็นภาระของประชาชน แต่ในทางกลับกันหากสามารถเจรจาต่อขยายสัมปทานได้ ทางเอกชนจะมอบข้อเสนอบางประการเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายประชาชน เช่น การลดค่าทางด่วนบางด่านในราคา 5 บาทมีผลตลอดไป และเอกชนจะยอมลงทุนก่อสร้างทางขึ้น-ลงทางด่วนเพิ่มเติมเพื่อแก้ปัญหารถติดบนทางด่วน รวมถึงการยกสิทธิการใช้ที่ดินใต้ทางด่วนให้กับกทพ.