posttoday

ดีโอดี ไบโอเทค ไตรมาส 2 ออร์เดอร์ใหม่ไหลเข้าต่อเนื่อง

09 พฤษภาคม 2562

ตั้งบริษัทย่อยดึง“โอ๋ โฮยอน”อายุน้อยร้อยล้าน ร่วมเป็นพันธมิตร รุกตลาดออนไลน์

ตั้งบริษัทย่อยดึง“โอ๋ โฮยอน”อายุน้อยร้อยล้าน ร่วมเป็นพันธมิตร รุกตลาดออนไลน์

น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดีโอดี ไบโอเทค (DOD)เปิดเผยว่า บริษัทได้รับคำสั่งซื้อ (ออร์เดอร์) ผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารประเภทคอลลาเจน มูลค่ากว่า 30 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มทยอยส่งมอบสินค้าล็อตแรกภายในเดือนพ.ค.นี้

รวมถึงได้รับออร์เดอร์ใหม่ผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพเพื่อวางจำหน่ายผ่านช่องทางร้านค้าปลีกทั่วประเทศ มูลค่ากว่า 30 ล้านบาท โดยผลิตภัณฑ์ดังกล่าวคาดว่าจะทยอยส่งมอบพร้อมวางจำหน่ายได้ช่วงปลายไตรมาส 2/62 เป็นต้นไป นอกจากนี้ยังมีออร์เดอร์ผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุ เบื้องต้นคาดว่าจะจำหน่ายผ่านช่องทางทีวี ช็อปปิ้ง

สำหรับบริษัทย่อยภายใต้ ชื่อ อัลทิมา ไลฟ์ ล่าสุดมีออร์เดอร์ผลิตเข้ามาแล้วมูลค่ากว่า 30 ล้านบาท ในขณะที่บริษัท พีซีซีเอ แล็บบอราเทอรี่ (PCCA) ล่าสุดมีออร์ดอร์ที่อยู่ระหว่างออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่หลายชนิด เช่น ครีมกันแดด แผ่นมาร์คหน้า ลิปสติก ครีมรองพื้น โฟมล้างหน้า ครีมสครับหน้า โลชั่นกันยุงสำหรับเด็ก เป็นต้น คาดว่าทยอยส่งมอบปลายไตรมาส 2 หรืออย่างช้าไม่เกินไตรมาส 3 ปีนี้

น.ส.ศุภมาส กล่าวว่า จากออเดอร์ที่ทยอยเข้ามาต่อเนื่องส่งผลให้ครึ่งปีหลังนี้จะมีรายได้เข้ามาอย่างมีนัยสำคัญ และด้วยแผนขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ทำให้ล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติจัดตั้งบริษัทย่อยเพื่อร่วมลงทุนในการพัฒนาและการผลิตผลิตภัณฑ์สกินแคร์ เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ตลอดจนการช่วยเพิ่มช่องทางการตลาดในการขยายธุรกิจเพื่อตอบโจทย์และรองรับความต้องการของลูกค้า

ทั้งนี้ บริษัทร่วมทุนดังกล่าว DOD จะถือหุ้น 51% ส่วนอีก 49% ถือหุ้นโดย น.ส.ธิวาภรณ์ จิตกล้า ซึ่งเป็นนักธุรกิจวัย 26 ปี ชื่อดัง ภายใต้เจ้าของธุรกิจสบู่โฮยอน (Ho-YEON) ที่มียอดขายเติบโตอย่างรวดเร็วแตะ 300 ล้านบาท จนได้รับฉายาว่า "โอ๋ โฮยอน อายุน้อยร้อยล้าน"

การจัดตั้งบริษัทร่วมทุนในครั้งนี้เนื่องจากเล็งเห็นถึงศักยภาพความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ที่คร่ำหวอดในการเป็นผู้นำด้านการตลาดออนไลน์ ที่มีตัวแทนขายทั่วประเทศกว่า 1 แสนราย

จากจุดแข็งที่กล่าวมาทั้งหมดผนวกกับการที่พันธมิตรดังกล่าวเข้ามาช่วยบริหารงานภายใต้บริษัทย่อยในครั้งนี้ จะเป็นการขยายกลยุทธ์ทางการตลาดในเชิงรุกให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งของ DOD ให้ก้าวสู่การเป็นผู้นำการให้บริการแบบครบวงจรได้ในระยะเวลาอันใกล้

น.ส.ศุภมาส กล่าวว่า หลังจากการปรับโครงสร้างธุรกิจข้างต้นจะส่งผลให้ภาพรวมผลการดำเนินงานปี 2562 มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นอย่างน้อย 10% จากปีก่อนที่มีรายได้ 673.12 ล้านบาท