กระทุ้งรัฐวิสาหกิจเร่งเบิกจ่าย

"สมคิด" ไล่บี้งบลงทุนรัฐวิสาหกิจ ห้ามข้าราชการเกียร์ว่าง หลังงบลงทุน 4 เดือนอืด

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมเร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนรัฐวิสาหกิจ ว่า ช่วงเดือน พ.ค.-มิ.ย. ซึ่งเป็นช่วงก่อนจัดตั้งรัฐบาลใหม่จะขอความร่วมมือให้รัฐวิสาหกิจเร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุน เพื่อช่วยพยุงภาวะเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง และผลกระทบจากสงครามการค้าที่กระทบการส่งออก

"ข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ ต้องไม่เกียร์ว่าง เพราะรัฐบาลนี้ยังทำงานถึงเดือน มิ.ย.นู่น ใครเกียร์ว่างจะไปใส่เกียร์ให้ ซึ่ง 11 ก.พ.นี้ จะเดินทางไปกระทรวงคมนาคม เพื่อไปเร่งรัดงบลงทุนต่อ เราต้องประคองให้ผ่านครึ่งปีนี้ให้ได้ เพราะเชื่อว่าครึ่งปีหลังน่าจะดีขึ้น จีดีพีทั้งปีคงได้ 4% กว่าๆ" นายสมคิด กล่าว

นางปานทิพย์ ศรีพิมล ที่ปรึกษาด้านพัฒนารัฐวิสาหกิจ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กล่าวว่า ผลการเบิกจ่ายงบลงทุนทั้งปีของรัฐวิสาหกิจ 45 แห่ง มีวงเงินกว่า 3.95 แสนล้านบาท แยกเป็นรัฐวิสาหกิจที่มีวงเงินลงทุนขนาดใหญ่ 18 แห่ง จำนวน 3.86 แสนล้านบาท หรือคิดเป็น 98% ของกรอบลงทุนทั้งหมด มีผลการเบิกจ่ายงบลงทุนสะสมปี 2562 ตั้งแต่เดือน ต.ค. 2561-ม.ค. 2562 จำนวน 3.48 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็น 58% ของแผนการเบิกจ่ายสะสม ซึ่งถือว่าการเบิกจ่ายค่อนข้างล่าช้า โดยเฉพาะการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้แก่ รถไฟความเร็วสูง ไทย-จีน บริษัท ท่าอากาศยานไทย ได้แก่ โครงการก่อสร้างท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เฟส 2 ซึ่งยังติดปัญหาเรื่องการทำสัญญา

"รองนายกฯ สั่งให้เร่งรัดการลงทุนรัฐวิสาหกิจ ซึ่งจะเดินทางไปกระทรวงคมนาคมในวันที่ 11 ก.พ. และได้สั่งให้การท่าฯ ดีดีการบินไทย การรถไฟฯ เข้าร่วมประชุมด้วย" นางปานทิพย์ กล่าว

อย่างไรก็ดี เชื่อว่าการเบิกจ่ายงบลงทุนรัฐวิสาหกิจอาจล่าช้าในช่วงไตรมาสแรก และจะเบิกจ่ายได้มากขึ้นในช่วงไตรมาส 2 และ 3

ทั้งนี้ ให้รัฐวิสาหกิจและกระทรวงเจ้าสังกัดพิจารณาให้การปรับปรุงกรอบการลงทุนในปี 2562 เฉพาะเท่าที่จำเป็นเท่านั้น พร้อมให้คณะกรรมการรัฐวิสาหกิจกำหนดให้มีการพิจารณาการเบิกจ่ายงบลงทุนในการประชุมคณะกรรมการทุกครั้ง และกำหนดตัวชี้วัดและค่าเป้าหมายของการเบิกจ่ายงบลงทุนในการประเมินผู้บริหารสูงสุดของรัฐวิสาหกิจ โดยให้กำหนดน้ำหนักที่สูงสำหรับรัฐวิสาหกิจที่มีการลงทุนสูง