คาดวาเลนไทน์ปีนี้เงินสะพัด 3,701 ล้านโตต่ำสุดรอบ 13 ปี

ม.หอการค้า คาด เงินสะพัดวาเลนไทน์ปี 62 มูลค่า 3,701 ล้านบาท ลด 3.17% ติดลบครั้งแรกรอบ 13 ปี โตต่ำสุดรอบ 3 ปี เหตุคนระวังใช้จ่าย ห่วงปัญหาสังคมยาเสพติด ท้องก่อนวัยอันควรพุ่ง

นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ได้ทำการสำรวจกลุ่มตัวอย่าง 1,200 รายทั่วประเทศเกี่ยวกับทัศนคติ พฤติกรรม และการใช้จ่ายช่วงวันวาเลนไทน์ปี 2562 พบว่ามีเงินสะพัดเฉลี่ยรวม 3,701 ล้านบาท ลดลง 3.17% ซึ่งเป็นการติดลบครั้งแรกในรอบ 13 ปีนับตั้งแต่มีการสำรวจ ส่วนวงเงินต่ำสุดในรอบ 3 ปี ขณะที่ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนอยู่ที่ 2,318.96 บาท ต่ำสุดในรอบ 4 ปีเช่นกัน

“การสำรวจโพลล์วาเลนไทน์แยกออกเป็น 2 ประเด็น คือในด้านเศรษฐกิจอัตราขยายตัวติดลบครั้งแรกรอบ 13 ปี เนื่องจากคนระมัดระวังการใช้จ่ายในเดือนก.พ. ที่มีวันกิจกรรมจำนวนมาก ไล่ตั้งแต่เทศกาลตรุษจีนช่วงต้นเดือน วันวาเลนไทน์ช่วงกลางเดือน และวันมาฆบูชาช่วงปลายเดือน ทำให้คนเลือกการใช้จ่ายที่จำเป็นก่อน” นายธรวรรธน์ กล่าว 

อย่างไรก็ตาม การใช้จ่ายที่มีมูลค่าลดลงในช่วงวันวาเลนไทน์จากการสอบถามกลุ่มตัวอย่างพบว่า ยังเกิดจากปัจจัยที่ต้องซื้อน้อยลง คือ สินค้าแพง มีผู้ตอบสัดส่วน 42.7% ทำให้ลดการซื้อทั้งดอกไม้ ช็อกโกแลต และการ์ด อีก 32.5% ตอบเศรษฐกิจไม่ดี และ 14.5% ตอบประหยัดค่าใช้จ่าย ส่วน 10.3% ตอบมีหนี้สินมาก ด้านที่มาของเงินที่ใช้ในช่วงวันวาเลนไทน์ โดยตอบใช้เงินเดือนมากสุด 73.1% รองลงมาเงินออม 21.6% โบนัส 1.4%

นายธนวรรธน์ กล่าวว่า ผลจากการสำรวจพฤติกรรมในช่วงวันวาเลนไทน์ที่น่ากังวลคือในภาคสังคม เพราะจากสำรวจกลุ่มตัวอย่างในปีนี้ ได้แสดงความคิดเห็นทั้งเรื่องการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร และเรื่องยาเสพติดที่จะเพิ่มขึ้นในวันวาเลนไทน์ มีสัดส่วนสูงกว่าการสำรวจปีที่ผ่านมามาก ซึ่งต้องยอมรับว่าในยุคปัจจุบันกระแสดิจิทัลได้เข้ามามีบทบาททั้งด้านการค้า เทคโนโลยี และสื่อโซเซียล ทำให้ค่านิยมในเรื่องของมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควรถือเป็นเรื่องปกติสำหรับวัยรุ่นยุคนี้ ซึ่งเรื่องนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในภาคสังคมหรือรัฐบาลจะต้องตระหนักและช่วยกันแก้ไขปัญหา เพราะจะเกิดการท้องก่อนวัยอันควร และมีวัยรุ่นเข้าสู่ระบบของการค้ายาเพิ่มจำนวนมากขึ้น

นอกจากนี้ ผลสำรวจในด้านพฤติกรรมที่น่าห่วง โดยได้สอบถามว่าคู่รักกลุ่มไหนมีแนวโน้มจะฉลองวันวาเลนไทน์ด้วยการมีเพศสัมพันธ์ พบว่าเป็นกลุ่มนักศึกษาสัดส่วนมากถึง 59.1%   รองลงมาคือ นักเรียน 29.2% วัยทำงาน (โสด) 11.6% และคู่สมรส 0.1% โดยสถานที่ที่วัยรุ่นอาจจะมีการฉลองวาเลนไทน์ด้วยการมีเพศสัมพันธ์ คือ หอพักมีผู้ตอบมากสุดสัดส่วน 34.8% รองลงมาโรงแรมม่านรูด 23.1% ห้องพักรายวัน 20.5% บ้านที่ไม่มีใครอยู่ 14.2% อพาร์ทเมนท์ 5.5% และสวนสาธารณะ 1.9%

“ทางศูนย์ฯในฐานะสถาบันศึกษามีความเป็นห่วงปัญหาภาคสังคม เพราะจากการสำรวจพฤติกรรมของวัยรุ่นในช่วงวันวาเลนไทน์พบว่าค่านิยมที่ได้รับจากสื่อโซเชียลถือว่าเรื่องมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควรถือเป็นเรื่องปกติ และยังอาจเกิดการล่อหลวงผ่านทางโซเชียลทั้งเฟสบุ๊ค ไลน์ ฯลฯ ที่จะเป็นปัญหาสังคมตามมา รวมทั้งการติดต่อโรคทางเพศสัมพันธ์จากการไม่ใส่ถุงยางอนามัย และวัยรุ่นที่เข้าไปสู่กระบวนการค้ายาเสพติดเพิ่มมากขึ้น เป็นเรื่องที่ทุกส่วนต้องเข้าไปส่วนกันแก้ปัญหา” นายธนวรรธน์ กล่าว