ออกเกณฑ์คุมข้าวจีทูจี

พาณิชย์รับลูก ป.ป.ช.ออกแนวทางซื้อขายข้าวจีทูจีวาง 3 เงื่อนไขป้องกันทุจริต

นายอดุลย์  โชตินิสากรณ์  อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมได้ออกแนวทางปฏิบัติในการเจรจาและการทำสัญญาซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) สำหรับข้าราชการประจำใช้เป็นแนวทางการดำเนินงานในอนาคต ตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้กำหนดให้มีการจัดทำมาตรการป้องกันการทุจริต กรณีการค้าระหว่างประเทศแบบรัฐต่อรัฐ จากโครงการรับจำนำข้าว และการระบาย ข้าวแบบรัฐต่อรัฐ โดยมีการนำเสนอ ให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาและ ครม.ได้ให้ความเห็นชอบแนวทางปฏิบัติ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้ ได้กำหนดหลักการสำคัญในการเจรจาและทำสัญญาซื้อขายข้าวแบบจีทูจี 3 ประการ คือ 1.การเจรจาและทำสัญญา คู่สัญญาต้องเป็นหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลกลางของประเทศผู้ซื้อ โดยสามารถตรวจสอบข้อมูลกับกระทรวงการต่างประเทศได้อีกทางหนึ่ง

2.การชำระเงิน ต้องเป็นการชำระเงิน ระหว่างประเทศ โดยไม่จำเป็นต้องเป็นการเปิด Letter of Credit (L/C) เพียงอย่างเดียว ขึ้นอยู่กับการเจรจา แต่ต้องตรวจสอบที่มาของเงินดังกล่าวได้ โดยมีเอกสารหลักฐานจากธนาคารทั้งของไทยและธนาคารที่ประเทศคู่ค้าใช้ในการทำธุรกรรมทางการเงินดังกล่าว

และ 3.การส่งมอบข้าว ต้องส่งข้าวออกไปจากประเทศไทยจริง โดยมี หลักฐานที่สำคัญ คือ ใบอนุญาตส่งออกข้าวที่ออกโดยกรมการค้าต่างประเทศ ที่ระบุว่าเป็นการส่งออกข้าวรัฐบาล

อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่ให้กรมการค้าต่างประเทศเปิดเผยข้อมูลในสัญญาซื้อขายข้าวแบบจีทูจีทั้งฉบับ มีแนวทางให้กรมพิจารณาเปิดเผยข้อมูลในส่วนที่สามารถเปิดเผยได้ตามความเหมาะสม โดยไม่ขัดต่อข้อกำหนดในสัญญาและไม่กระทบต่อตลาด ความสัมพันธ์กับประเทศผู้ซื้อ

การเปิดเผยข้อมูลจีทูจีทั้งหมดอาจกระทบต่อไทยในด้านการแข่งขันซื้อขายข้าวจีทูจี เนื่องจากต้องเปิดเผยข้อมูลในด้านต่างๆที่เกี่ยวข้อง ให้ประเทศคู่แข่ง รับทราบ

สำหรับการส่งออกข้าวไทยตั้งแต่วันที่ 1-31 ม.ค. 2562 มีปริมาณ 9.67 แสนตัน เพิ่มขึ้น 0.56% เทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา มูลค่า 1.63 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.29% หรือ 505 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 6.41% ส่วนราคาขายข้าวเฉลี่ยอยู่ที่ 521.85 ดอลลาร์/ตัน เพิ่มขึ้น 5.82%