ญี่ปุ่นเกาะติดเลือกตั้งหวังเห็นการเมืองไทยราบรื่น
สมคิดเผยผลหารือญี่ปุ่นชื่นมื่น ย้ำทุกนโยบายที่สำคัญของรัฐบาลยังเดินหน้าต่อ เร่งสร้างความเชื่อมั่น หวั่นเข้าโหมด Wait and see
สมคิดเผยผลหารือญี่ปุ่นชื่นมื่น ย้ำทุกนโยบายที่สำคัญของรัฐบาลยังเดินหน้าต่อ เร่งสร้างความเชื่อมั่น หวั่นเข้าโหมด Wait and see
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รอง นายรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 18 ม.ค. 2562 นายฮิโรฟูมิ นาคะโซเน่ สมาชิกรัฐสภาญี่ปุ่น ประธานกลุ่มการแลกเปลี่ยนระหว่างรัฐสภาญี่ปุ่น-อาเซียน (JapanASEAN Inter- Parliamentary Exchange Group) และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น ได้เข้ามาหารือเพื่อติดตามเกี่ยวกับการเลือกตั้งในประเทศไทย เพื่อให้แน่ใจว่าการเลือกตั้งจะดำเนินไปอย่างราบรื่นและนโยบายต่างๆ ที่ดำเนินมาจะเป็นอย่างไร
ทั้งนี้ ได้ให้ความเชื่อมั่นกับนาย คะโซเน่ว่าการเลือกตั้งจะมีขึ้นและราบรื่นแน่นอน ส่วนนโยบายต่างๆ ที่รัฐบาลนี้เริ่มไว้เป็นนโยบายหลักและสำคัญมีความจำเป็นต่อประเทศจะต้องเดินต่ออยู่แล้ว แม้จะมีการเลือกตั้งและผลจะเป็นอย่างไรทั้งเศรษฐกิจดิจิทัล เขตพัฒนาพิเศษ ภาคตะวันออก (อีอีซี) ความสัมพันธ์ไทยญี่ปุ่น ความสัมพันธ์ลุ่มแม่น้ำโขงทุกอย่างดำเนินการต่อไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ใกล้เลือกตั้งต่างประเทศคงติดตามสถานการณ์ในไทย รวมถึงตัวนักลงทุนเองซึ่งรัฐบาลจะไม่ปล่อยให้อยู่ในภาวะ Wait and see (รอดูสถานการณ์) แต่จะมีกิจกรรมต่างๆ เพื่อกระตุ้นความเชื่อมั่นให้นักลงทุน
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล ระบุว่า ระหว่างการหารือนายนาคะโซเน่ กล่าวว่า พร้อมที่จะสนับสนุนไทยในการเข้าร่วมเป็นสมาชิกความตกลงที่ครอบคลุมและก้าวหน้าสำหรับหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (CPTPP) พร้อมกับแสดงความยินดีในโอกาสที่ไทยดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนในปีนี้ และเห็นว่าภูมิภาคอาเซียนมีความสำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งญี่ปุ่นกับไทยสามารถร่วมมือกันต่อไปเพื่อพัฒนาภูมิภาคลุ่มน้ำโขง สอดคล้องกับที่นายสมคิดที่เห็นว่าไทยมีข้อได้เปรียบจากการที่ตั้งอยู่จุดศูนย์กลางของอาเซียน และเชิญชวนให้นักลงทุนจากญี่ปุ่นเข้ามาลงทุนในอีอีซี
ดังนั้น ระหว่างวันที่ 30 ม.ค.-2 ม.ค. ไทยเตรียมนำคณะและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินทางไปโรดโชว์ที่ญี่ปุ่น เพื่อให้ข้อมูลกับนักลงทุนรวมทั้งบอกถึง ทิศทางของประเทศไทย ซึ่งยืนยันนโยบายเดิมที่ได้ทำมาก่อนหน้านี้ โดยจะเดินทางไปภูมิภาคคันไซ เมืองสำคัญและเป็นแหล่งที่มีอุตสาหกรรมที่สำคัญเกี่ยวกับอิเล็กทรอนิกส์ ชิ้นส่วนไฮเทคต่างๆ เครื่องมือการแพทย์ นอกจากนี้อาจนำคณะเดินทางไปยังเมืองฮอกไกโดเพื่อหารือถึงความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวและด้านเกษตร
ขณะที่เดือน ก.พ.ผู้ว่าราชการนครโอซากาจะนำนักธุรกิจญี่ปุ่นมาเยือนประเทศไทย และผู้ว่าราชการจังหวัด วากายาม่าจะเดินทางมาเยือนไทยในเดือน พ.ค. ซึ่งเป็นโอกาสอันดีที่จะได้ชักชวน ให้มาลงทุนในไทย
นายสมคิด กล่าวว่า ส่วนความคืบหน้าการแก้ไขและฟื้นฟูรัฐวิสาหกิจที่มีปัญหาที่ขณะนี้ออกจากแผนฟื้นฟูไป สองแห่ง คือ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือเอสเอ็มอีแบงก์ และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) และยังเหลืออีก 5 แห่งที่ยังอยู่ในแผนฟื้นฟู ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าหลายแห่งมีปัญหาสะสมมานาน การแก้ไขจะต้องใช้เวลาไม่ว่าจะเป็นการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.)
ด้านของการบินไทย การแก้ไขปัญหาขณะนี้ถือได้ว่ามาถูกทางแล้ว ซึ่งในการประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) เมื่อวันที่ 17 ม.ค. 2562 ได้อนุมัติแผนงานที่บริษัทเสนอมาและให้ดำเนินการตามนั้นส่วนการจัดหาฝูงบินใหม่ก็ให้ไปพิจารณาว่าจะออกมาแนวทางใด จะต้องมีทุนมากขึ้นหรือไม่ หรือจะเช่าซื้อก็ให้ไปตัดสินใจ
"ควรจะมีทุนมากขึ้นจะต้องเพิ่มทุนหรือไม่ ก็ให้ไปถามการบินไทยดูว่าการ ซื้อฝูงบินใหม่จะต้องมีเงินสำรองเพิ่มขึ้นไหม แต่แผนงานเขาดีอยู่แล้วส่วนกรณีนกแอร์ที่ประชุม คนร. ก็บอกให้ตัดสินใจเลยจะเอายังไง แล้วแต่เขา แต่ไทย สมายล์ยังไปได้อยู่ โลว์คอสต์ให้เก็บไว้บริษัทเดียวหรือไม่ ก็เป็นนโยบายของเขา" นายสมคิด กล่าว