กนอ.เร่งจัดสรรน้ำ รองรับลงทุนอีอีซี

กนอ.เตรียมความพร้อมจัดสรรน้ำป้อนสถานประกอบการ นิคมฯ รองรับการลงทุนอีอีซี

นายวีรพงศ์ ไชยเพิ่ม ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ กนอ.มีการ เตรียมความพร้อมด้านปริมาณน้ำเพื่อเป็นส่วนสนับสนุนกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายที่จะเกิดขึ้นในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) โดยร่วมกับกรมชลประทานหารือแนวทางการบริหารจัดการน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของภาคอุตสาหกรรม ประเมินว่าหากมีการลงทุนในพื้นที่จะมีความต้องการใช้น้ำเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว จากปัจจุบันการใช้น้ำของทุกนิคมฯ ที่อยู่ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉลี่ยอยู่ที่วันละ 5 แสนลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) หรือ 180 ล้าน ลบ.ม./ปี

ปัจจุบันพื้นที่ภาคตะวันออกมีอ่างกักเก็บน้ำ จำนวน 3 แห่ง คือ อ่างเก็บน้ำดอกกลาย อ่างเก็บน้ำหนองปลาไหลและอ่างเก็บน้ำคลองใหญ่ โดยอ่างเก็บน้ำดอกกลายปัจจุบันมีน้ำปริมาณ 58 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 73% จากระดับกักเก็บน้ำสูงสุดที่ 79 ล้าน ลบ.ม. อ่างเก็บน้ำหนองปลาไหลมีปริมาณน้ำประมาณ 134 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 82% จากระดับกักเก็บน้ำ สูงสุดที่ 163 ล้าน ลบ.ม. และอ่างเก็บน้ำคลองใหญ่มีปริมาณน้ำประมาณ 33 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 82% จากความจุสูงสุดประมาณ 40 ล้าน ลบ.ม.

อย่างไรก็ตาม จากการติดตามข้อมูลปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำจากกรมชลประทาน ทั้ง 3 อ่างเก็บน้ำหลักมีปริมาณน้ำมากกว่าปีที่ผ่านมา โดยมีปริมาณน้ำรวมประมาณ 79% ของความจุเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีปริมาณน้ำเพียง 37% ขณะเดียวกัน กนอ.ยังได้สร้างอ่างเก็บน้ำในพื้นที่นิคมฯ มาบตาพุด ที่สามารถรองรับน้ำได้ประมาณ 2 ล้าน ลบ.ม.

"รัฐบาลเร่งขับเคลื่อนแผนพัฒนา อีอีซีอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นโครงการที่ทำให้เกิดการพัฒนาประเทศในอนาคต โดยตั้งเป้าหมายใน 5 ปี จะมีการลงทุนเกิดขึ้นในพื้นที่ประมาณ 1.5 ล้านล้านบาท ทาง กนอ.ต้องเตรียมความพร้อมสาธารณูปโภคอื่นๆ รองรับ ซึ่งโครงการดังกล่าวจะช่วยต่อยอดอุตสาหกรรมจากโครงการอีสเทิร์นซีบอร์ดที่มีศักยภาพอยู่แล้ว โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย จึงถือเป็นยุทธศาสตร์ที่สำคัญให้ประเทศไทยมีการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจ" นายวีรพงศ์ กล่าว