posttoday

หอการค้าเล็งปรับจีดีพีใหม่

05 สิงหาคม 2553

ม.หอการค้าไทย เล็งปรับประมาณการใหม่ 25 ส.ค. ชี้เศรษฐกิจฟื้นตัวแต่รายได้กระจุกตัว

ม.หอการค้าไทย เล็งปรับประมาณการใหม่ 25 ส.ค. ชี้เศรษฐกิจฟื้นตัวแต่รายได้กระจุกตัว

นายธนวรรธน์ พลวิชัย  ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เผยเตรียมพิจารณาทบทวนและปรับตัวเลขประมาณการเศรษฐกิจปี 53 ใหม่อีกครั้งในวันที่ 25 ส.ค.นี้ หลังนายกรัฐมนตรีออกมาระบุว่าเศรษฐกิจของไทยในช่วงครึ่งปีแรกน่าจะขยายตัวได้ถึง 10% สวนทางกับผลสำรวจความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ยังมีความกังวลเรื่องรายได้และโอกาสในการมีงานทำ

"ผลสำรวจสะท้อนว่าเศรษฐกิจไทยยังฟื้นตัวอย่างเปราะบาง ประชาชนยังไม่รับรู้ถึงผลดีจากการปรับตัวดีขึ้นของเศรษฐกิจมากนัก จากผลสำรวจคนส่วนใหญ่เชื่อว่าเศรษฐกิจทั้งปีจะโตไม่ถึง 6% ขณะที่รัฐบาลตั้งเป้าหมายไว้เกิน 6-7% ซึ่งศูนย์ฯ จะทบทวนและปรับประมาณการเศรษฐกิจใหม่อีกครั้งในวันที่ 25 สิงหาคมนี้ โดยน่าจะบวกจากเดิมที่คาดขยายตัวระดับ 5-6%" ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจฯ กล่าว

ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจฯ กล่าวว่า ถึงแม้ภาวะเศรษฐกิจในปีนี้จะมีสัญญาณการฟื้นตัวดีขึ้น แต่ยังเป็นแบบกระจุกตัว เพราะปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้เศรษฐกิจมีอัตราการเจริญเติบโตสูงขึ้นมาจากการส่งออกเป็นส่วนใหญ่ ทำให้ประชาชนโดยทั่วไปไม่ได้รับประโยชน์จากการฟื้นของเศรษฐกิจดังกล่าว และยังระมัดระวังการใช้จ่ายต่อไป ดังนั้นรัฐบาลควรมีมาตรการดูแลและควบคุมราคาสินค้าอุปโภคบริโภคให้สอดคล้องกับรายได้ แก้ปัญหาหนี้นอกระบบ เพิ่มฐานเงินเดือนของผู้มีรายได้น้อย และแก้ปัญหาความยากจนของคนในชนบท

สำหรับช่วงเทศกาลวันแม่ที่กำลังจะถึงในปีนี้ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจฯ สำรวจพบว่า จะมีเม็ดเงินสะพัด 14,259.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 56% เมื่อเทียบกับปีก่อนเนื่องจากเป็นช่วงที่มีวันหยุดยาวต่อเนื่อง 4 วัน ทำให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้รับอานิสงน์มีเงินสะพัดกว่า 5,000 ล้านบาท แต่หากดูเฉพาะวันที่ 12 ส.ค.จะมีเงินสะพัด 9,509.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้นแค่ 4% เท่านั้นเนื่องจากประชาชนมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม ทำให้มีการจับจ่ายใช้สอยลดลง

"แม้ยอดการใช้จ่ายในวันแม่เฉพาะวันที่ 12 สิงหาคมจะเพิ่มในระดับ 4% แต่ยังถือเป็นระดับต่ำเมื่อเทียบกับสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ปีนี้คาดการเติบโต 6-7% ชี้ให้เห็นว่าแม้เศรษฐกิจดีขึ้นแต่ยังเป็นแบบรายได้กระจุกตัว เพราะการฟื้นตัวเศรษฐกิจมาจากการส่งออกเป็นส่วนใหญ่ ทำให้ประชาชนไม่ได้รับประโยชน์จากการฟื้นของเศรษฐกิจและยังระมัดระวังการใช้จ่ายต่อไป" นายธนวรรธน์ กล่าว