เวิร์กช็อป12กลุ่มแก้ปมส่งออก
พาณิชย์เรียก 12 กลุ่มสินค้าผู้นำหารือ วางยุทธศาสตร์ส่งออกเร่งด่วน ก่อนเสนอบิ๊กตู่
พาณิชย์เรียก 12 กลุ่มสินค้าผู้นำหารือ วางยุทธศาสตร์ส่งออกเร่งด่วน ก่อนเสนอบิ๊กตู่
นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 30 ก.ย.เป็นต้นไป จะเชิญผู้ประกอบการ 12 กลุ่มสินค้าส่งออกที่สำคัญมาหารือร่วมกับนางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เพื่อจัดทำแผนยุทธศาสตร์ ช่องทางและโอกาสของการส่งออก และจะนำประเด็นที่ได้จากการหารือมาสรุปเป็นแนวทาง เพื่อเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการพัฒนาการค้าระหว่างประเทศนัดแรก ซึ่งมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ในช่วงเดือน พ.ย.นี้
"การหารือทั้ง 12 กลุ่มสินค้าสำคัญ ถือเป็นการเวิร์กช็อปกับภาคเอกชน ก่อนจะนำเสนอต่อนายกฯ โดยจะดูโอกาสในการผลักดัน แม้ว่าปีนี้จะมีโอกาสติดลบ 3% แต่หากมีช่องทางก็จะทำให้ดีที่สุด และจะกำหนดยุทธศาสตร์การส่งออกระยะเร่งด่วนรายกลุ่มด้วย" นายสุวิทย์ กล่าว
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการ 12 กลุ่มส่งออกที่จะเชิญมาหารือ ได้แก่ กลุ่มยานยนต์และชิ้นส่วน กลุ่มอัญมณีและเครื่องประดับ กลุ่มเกษตรและอาหาร กลุ่มตลาดซีแอลเอ็มวี กลุ่มไลฟ์สไตล์ กลุ่มสิ่งทอและเครื่องหนัง กลุ่มไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มวัสดุและบริการก่อสร้าง กลุ่มโลจิสติกส์ กลุ่มสุขภาพและความงาม กลุ่มดิจิทัลคอนเทนต์และการพิมพ์ และกลุ่มสินค้าฮาลาล
"แม้ว่าตัวเลขการส่งออกของไทยจะติดลบ 3 ปีติดต่อกัน แต่หากดูตัวเลขการส่งออกจะพบว่าปี 2556 ติดลบ 0.26% ปี 2557 ติดลบ 0.43% และปี 2558 ตั้งเป้าว่าจะติดลบ 3% พบว่าไม่ได้ติดลบมาก แต่ปีนี้หนักเพราะเศรษฐกิจโลกไม่ดี ราคาน้ำมันตกต่ำ แต่เชื่อว่าการส่งออกปี 2559 น่าจะดีกว่านี้แน่นอน เพราะส่วนแบ่งตลาดไทยไม่ได้ลดลง บางสินค้าเพิ่มขึ้นด้วยซ้ำไป แต่จะต้องมีการกำหนดแผนระยะสั้น กลาง ยาว เพื่อวางโครงสร้างการค้าระหว่างประเทศของไทยให้เข้มแข็ง" รมช.พาณิชย์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ได้มอบนโยบายให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศเร่งจัดกลุ่มตลาดใหม่ โดยมุ่งเน้นอาเซียน จีน อินเดีย เจาะลงไปถึงเมืองรองในแต่ละประเทศ เพื่อนำมากำหนดยุทธศาสตร์ผลักดันการค้าจัดทูตพาณิชย์ให้เหมาะสมกับตลาดส่งออก จากปัจจุบันมีสำนักทูตพาณิชย์ 61 แห่ง ใน 42 ประเทศ จึงต้องโยกย้ายหรือปรับให้เหมาะสม และจะจ้างทูตพาณิชย์ที่เกษียณไปแล้วมาช่วยเป็นพี่เลี้ยงประสานกับบริษัทเอกชนที่ไปลงทุนในต่างประเทศให้มาช่วยเป็นพี่เลี้ยงเอสเอ็มอีแบบพี่จูงน้อง โดยจะทำให้เสร็จใน 1 เดือน
นอกจากนี้ ได้มอบหมายให้จัดทำแผนยุทธศาสตร์เพื่อสนับสนุนการส่งออกและธุรกิจบริการ โดยเชื่อว่าภายใน 3 ปีข้างหน้าภาคธุรกิจบริการจะมีสัดส่วนเพิ่มเป็น 50% ของการส่งออกรวม จากปัจจุบันเพียง 20% ของการส่งออกรวม