ศัลยกรรมยังคึก ต่างชาติแห่ทำสวย

ด๊อกเตอร์โทนี่คลีนิค ชี้ธุรกิจความงามและศัลยกรรมไทย โตปีละ 20% หลังต่างชาติแห่ทำสวย

นพ.วรพล สุขีวัฒนา แพทย์ประจำแผนกผิวหนังโรงพยาบาลบีเอ็นเอช และเจ้าของ "ด๊อกเตอร์โทนี่คลีนิค" เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจความงามและศัลยกรรมในประเทศไทยยังคงมีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง โดยในส่วนของปีที่ผ่านมาภาพรวมขยายตัวอยู่ที่ประมาณ 20% ส่งผลให้ปัจจุบันมีมูลค่าธุรกิจรวมกันกว่า 3 หมื่นล้านบาท และจากจำนวนผู้ใช้บริการธุรกิจความงามและศัลยกรรม ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้คาดการณ์ว่าสิ้นปีนี้ธุรกิจดังกล่าวจะมีการเติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 20% เช่นกัน

ทั้งนี้ ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจความงามและศัลยกรรมในประเทศไทยมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งเกิดจากจำนวนลูกค้าต่างชาติที่เข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น โดยล่าสุดพบว่านักท่องเที่ยวประมาณ 1.5 แสนคน ที่มาท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ 50% ของจำนวนดังกล่าว เข้ามาใช้บริการความงามและศัลยกรรมในประเทศไทย

“หากมองในด้านของความพร้อม ปัจจุบันวงการแพทย์ศัลยกรรมความงามในประเทศไทย พร้อมแล้วที่จะรองรับจำนวนลูกค้าต่างชาติที่จะเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น และจากการที่ประเทศไทยจะก้าวเข้าสู่การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ในปลายปีนี้ ทำให้ต้องเตรียมความพร้อมมากขึ้น เพื่อเดินหน้าสู่การแข่งขัน” นพ.วรพล กล่าว

อย่างไรก็ตาม หลังจากเปิดเออีซีในช่วงแรกๆ ธุรกิจที่คาดว่าจะมีการแข่งขันรุนแรงคือ ตลาดเครื่องมือแพทย์ เนื่องจากจะมีคู่แข่งเข้ามาทำตลาดมากขึ้น เพื่อแย่งส่วนแบ่งการตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ ขณะเดียวกันก็คาดว่าจะมีบริษัทใหญ่จากต่างชาติที่ได้เปรียบเรื่องเงินทุนเข้ามาทำธุรกิจ เพื่อชิงส่วนแบ่งตลาด

สำหรับแนวทางการดำเนินธุรกิจของ "ด๊อกเตอร์โทนี่คลีนิค" เพื่อรองรับการเปิดเออีซีนั้น เชื่อว่ายังคงได้เปรียบคู่แข่ง เนื่องจากแบรนด์สินค้ามีความน่าเชื่อถือ แพทย์ที่นำมาให้บริการก็มีประสบการณ์และมีชื่อเสียง จึงทำให้ลูกค้ามั่นใจเมื่อจะเข้ามาใช้บริการ

นพ.วรพล กล่าวอีกว่า กลุ่มเป้าหมายหลักของด๊อกเตอร์โทนี่คลีนิคคือ กลุ่มลูกค้าอายุ 40 ปีขึ้นไป เพราะกลุ่มนี้จะให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพและเป็นกลุ่มลูกค้าที่ต้องการให้ตนเองดูอ่อนกว่าวัย ซึ่งถือว่าเป็นตลาดที่ใหญ่และมีกำลังซื้อสูง โดยถึงแม้เศรษฐกิจไทยชะลอ แต่กำลังซื้อกลุ่มนี้ยังโตและบริษัทเชื่อปีนี้จะได้ตามเป้า