โซเชียลเน็ตเวิร์ก ช่องทางทรงอิทธิพล

โดย...ณัฏฐ์ธยาน์ สุทธิเจริญ

การวางแผนการตลาดอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ คงไม่ต้องคิดคำถามแบบนี้อีกแล้ว หากเจ้าของแบรนด์หรือธุรกิจองค์กรเข้าใจว่า โลกออนไลน์ได้กลายมาเป็นส่วนสำคัญในการทำธุรกิจให้สำเร็จได้อย่างแท้จริง

ทั้งนี้ เห็นได้จากภาพรวมการใช้งานดิจิทัลในประเทศไทยจำนวนประชากรอินเทอร์เน็ต 64.9 ล้านคน แบ่งเป็นผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต 35 ล้านคน ผู้ใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ 34 ล้านคน และเป็นผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียบนสมาร์ทโฟนที่มี 30 ล้านคน เพิ่มขึ้นประมาณ 36%

ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการ บริษัท โซเชียล อิงค์ เปิดเผยว่า ภาพรวมการใช้งานโซเชียลมีเดียในประเทศ ไทย เฟซบุ๊กถือเป็นโซเชียลมีเดียที่ประสบความสำเร็จที่สุด เพราะมีผู้ใช้งานทั่วโลกกว่า 7,210 ล้านคน ประชากรเฟซบุ๊ก 1,039 ล้านคน เมื่อจัดอันดับผู้ใช้งานใน 25 ประเทศทั่วโลก ซึ่งไทยเป็นอันดับที่ 9 ของประเทศที่มีการใช้งานมากที่สุด ทั่วโลก จากจำนวนประชากรรวม 35 ล้านคน หรือคิดเป็น 51% ของประชากรทั้งหมด

ขณะที่สิงคโปร์ถือว่าเป็นประเทศที่มีผู้ใช้งานเฟซบุ๊กมากที่สุด เมื่อเทียบกับทั่วโลกคือ สูงถึง 98% หรือใช้งานเฟซบุ๊กถึง 5.4 ล้านคน เมื่อเทียบกับจำนวนประชากรทั้งหมด 5.5 ล้านคน

เมื่อเทียบกับผู้ใช้งานแอพพลิเคชั่นไลน์ (LINE) ที่มีผู้ใช้งานกว่า 560 ล้านคนทั่วโลก ในไทยมีผู้ใช้งานกว่า 35 ล้านคน โดยมีจำนวนร้านค้าในไลน์ช็อปมากกว่า 1 แสนร้านค้า และมีผู้ดาวน์โหลดไปใช้งานแล้วกว่า 1.9 ล้านราย ส่วนสื่อโซเชียลมีเดียที่จะมาแรงในปีนี้ คาดว่าจะเป็นแอพพลิเคชั่นแบบคลิปวิดีโอหรือการถ่ายทอดสด เช่น Vine, Periscope, Meerkat เพราะผู้บริโภคมีความเชี่ยวชาญในการใช้งานเครือข่าย 3จี และ 4จี มากขึ้น

กลยุทธ์ที่นักการตลาดแนะนำให้แบรนด์นำไปใช้ เพื่อให้โซเชียล มีเดียขององค์กรประสบความสำเร็จ คือ A-Analysis Market การวิเคราะห์ตลาดว่าในภาพรวมนั้นเป็นอย่างไร L-Listening ฟังเสียงผู้บริโภคเพื่อมองหาความต้องการที่แท้จริง A-Action นำผลรวมที่ได้ไปปฏิบัติให้ประสบความสำเร็จ R-RealTime Trend ต้องเป็นเทรนด์ที่อยู่ในกระแส M-Measurement ประเมินผลให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของกิจกรรม

นอกจากนี้ ภาวุธ ยังกล่าวอีกว่า งบโฆษณาดิจิทัลของประเทศ ไทยจากเดิม 6,000 กว่าล้านบาทเพิ่มขึ้นเป็น 8,100 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดิม 2,000 ล้านบาท ซึ่งถือว่ายังมีโอกาสโตได้อีกหากเทียบกับประเทศอื่นๆ ในเอเชีย

“กลุ่มสินค้าที่ลงทุนใช้ช่องทางการตลาดออนไลน์มากที่สุด ได้แก่ ผู้ให้บริการระบบรถยนต์ เครื่องสำอางและสถาบันการเงิน จึงเป็นโอกาสของตลาดโฆษณาที่จะเข้าไปขยายธุรกิจใหม่ๆ ได้มากขึ้น หากเจ้าของธุรกิจรู้จักวางแผนในช่องทางนี้มากขึ้น”ภาวุธ กล่าว

นอกจากนี้ ยังมีข้อห้ามของการทำการตลาดโฆษณาผ่านสื่อสังคมออนไลน์ชื่อดังต่างๆ อย่างเช่น พันทิป ที่มีความนิยมรีวิวสินค้าและบริการต่างๆ สำหรับเจ้าของสินค้าและธุรกิจด้วยว่า 1.ไม่ควรจะขายสินค้าแบบโฆษณาแฝงในโซเชียลมีเดียแบบไม่จริงใจ เพราะผู้บริโภคจะทราบทันที และเกิดความไม่เชื่อถือในแบรนด์ 2.เมื่อเกิดปัญหาร้องเรียนขึ้น เจ้าของธุรกิจอย่าขู่ว่าจะฟ้องร้องเพราะจะยิ่งทำให้ความเชื่อมั่นในแบรนด์ลดลง 3.อย่าจ้างสมาชิกให้ตั้งกระทู้ เพราะจะทราบทันทีว่ามีการว่าจ้างและกลายเป็นความไม่เชื่อมั่น
ในแบรนด์

สิ่งสำคัญคือ กลยุทธ์การทำตลาดออนไลน์จะสำเร็จได้ ต้องเป็นคอนเทนต์ที่น่าเชื่อถือ จริงใจและสัมผัสถึงแบรนด์ได้