"โกศล สุรโกมล" บุกเบิกรถยนต์ไฟฟ้า

โดย...สไปรท์

ถือว่าเป็นความล้ำหน้าทางเทคโนโลยีอีกขั้นในอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทย เมื่อบริษัท ล็อกซเล่ย์ ร่วมกับ บีวายดี ออโต้ อินดัสตรี้ ประเทศจีน นำเข้าและเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าประเดิม 2 รุ่นเพื่อทำตลาดในไทย

นอกจากนี้ ยังถือว่าเป็นรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อการพาณิชย์ครั้งแรกในประเทศไทย ที่ชูจุดเด่นด้านการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% ไร้มลพิษและประหยัดพลังงาน

โกศล สุรโกมล ที่ปรึกษาบริษัทล็อกซเล่ย์ กล่าวว่า บริษัทเป็นผู้นำด้านธุรกิจการค้าและเทคโนโลยีของประเทศไทย ที่ดำเนินธุรกิจมากว่า 76 ปี ตระหนักถึงการมีส่วนร่วมในการรับผิดชอบต่อสภาวะโลกร้อน จึงให้ความสำคัญด้านพลังงานทดแทนมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม และพลังงานจากขยะ และจึงเป็นที่มาของแนวคิดที่จะต่อยอดทางด้านยานยนต์พลังงานทางเลือกใหม่ชนิดขับเคลื่อนจากพลังงานไฟฟ้า

“บริษัทศึกษาเรื่องการพัฒนายานยนต์ไฟฟ้ามาระยะหนึ่งแล้ว จนมั่นใจว่าตลาดในประเทศไทยพร้อมแล้วสำหรับการใช้รถยนต์ไฟฟ้า จึงเลือกรถโดยสารและรถยนต์นั่งไฟฟ้าของบีวายดี เข้ามาบุกตลาดเป็น 2 รุ่นแรก เพราะเชื่อมั่นในคุณภาพ สมรรถนะและความปลอดภัยสูงของยานยนต์ไฟฟ้าบีวายดี อีกทั้งไม่ก่อให้เกิดมลพิษในอากาศ และยังช่วยประหยัดพลังงาน ลดการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิง”

จุดเด่นอีกอย่างหนึ่ง คือ มีค่าซ่อมบำรุงรักษาต่ำกว่ารถที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงทั่วไป ที่สำคัญแบตเตอรี่รถยนต์หลังจากครบอายุการใช้งานไม่น้อยกว่า 15 ปี สามารถกลับมาใช้ใหม่ได้ เช่น ใช้เป็นแบตเตอรี่สำรองต่างๆ จึงไม่เป็นภาระต่อสิ่งแวดล้อม เบื้องต้นเน้นกลุ่มเป้าหมายหน่วยงานภาครัฐและเอกชนตั้งเป้า 400 คันภายในปีนี้

สำหรับรถยนต์ทั้งสองรุ่น ได้แก่ บีวายดี อี 6 (รถยนต์นั่งไฟฟ้า) ขนาด 5 ที่นั่ง ความยาว/กว้าง/สูง 4.560/1.822/1.645 เมตร มีระยะห่างช่วงล้อ 2.830 เมตร ขับเคลื่อนด้วยระบบมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับขนาด 90 กิโลวัตต์ หรือ 121 แรงม้า ใช้แบตเตอรี่ Lithium Fe ความจุ 61.4 กิโลวัตต์ชั่วโมง ใช้เวลาในการประจุไฟฟ้า 2 ชั่วโมง วิ่งได้ระยะทางมากกว่า 300 กิโลเมตรต่อการประจุไฟฟ้าเต็ม 1 ครั้ง อัตราการสิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้าเฉลี่ย 0.13 กิโลวัตต์ชั่วโมง/กิโลเมตร หรือ 0.5 บาท/กิโลเมตร และให้ความเร็วสูงสุด 140 กิโลเมตร/ชั่วโมง

ขณะที่ บีวายดี เค 9 (รถโดยสารไฟฟ้า) ขนาดความยาว 12 เมตร เป็นรถโดยสารไฟฟ้าชานต่ำ ตัวถังรถทำจากอะลูมิเนียมอัลลอย มีน้ำหนักเบา ไม่เป็นสนิม พร้อมระบบขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับขนาด 180 กิโลวัตต์ หรือ 250 แรงม้า ช่วงล่างมีระบบกันสะเทือนแบบถุงลม ใช้แบตเตอรี่ชนิด Lithium Fe มีความจุขนาด 324 กิโลวัตต์ชั่วโมง ใช้เวลาในการประจุไฟฟ้า 5 ชั่วโมง วิ่งได้มากกว่า 250 กิโลเมตรต่อการประจุไฟฟ้าเต็ม 1 ครั้ง อัตราการสิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้าเฉลี่ย 1.2 กิโลวัตต์ชั่วโมง/กิโลเมตร หรือ 4 บาท/กิโลเมตร ให้ความเร็วสูงสุด 70 กิโลเมตร/ชั่วโมง

จากนี้ไปต้องจับตาดูการตอบรับของตลาดกับเทคโนโลยีใหม่นี้ พร้อมยอมรับในความกล้าหาญบุกเบิกตลาดใหม่ครั้งนี้ด้วยเช่นกัน