เอกชนเสนอประเทศต้องปฏิรูปหลายด้าน
ภาคเอกชนเตรียมหารือกลุ่มเล็กทำข้อเสนอผู้ที่จะเข้ามาบริหารประเทศชี้ต้องมีการปฎิรูปในหลายด้าน
ภาคเอกชนเตรียมหารือกลุ่มเล็กทำข้อเสนอผู้ที่จะเข้ามาบริหารประเทศชี้ต้องมีการปฎิรูปในหลายด้าน
เอกชนเรียกร้องปฏิรูปประเทศหลายด้านต้านคอร์รัปชั่น กฎหมาย กระบวนการยุติธรรม องค์กรอิสระเข้มแข็งประชาชนมีส่วนร่วม เตรียมหารือกลุ่มเล็กทำข้อเสนอผู้ที่จะเข้ามาบริหารประเทศ ด้าน ส.อ.ท.หวังเหตุการณ์การเมืองจบเร็วชี้เห็นสัญญาติส่งออกชะลอต่อในไตรมาสแรกปี57 หลังยอดนำเข้าวัตถุดิบเพื่อการผลิตชะลอ
นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า กรณีที่ทั้ง คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข(กปปส.) และรัฐบาลได้จัดเวทีสัมมนาเพื่อหาทางออกประเทศได้มีการเชิญทางองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันเข้าร่วม ซึ่งก็ได้มีการส่งตัวแทนไป แต่ยังมองว่าแต่ละเวทีเป็นการหารือแบบเวทีใหญ่ยากที่ได้ข้อสรุปที่เป็นสาระสำคัญ
ภาคเอกชนจึงจะจัดทำข้อเสนอจากการหารือเป็นกลุ่มเล็กระหว่างเอกชนและหน่วยงานต่างๆ ซึ่งขณะนี้ก็มีการหารือและทำงานต่างๆ ร่วมกันอยู่แล้ว ซึ่งข้อเสนอทั้งหมดจะทำให้เสร็จก่อนเลือกตั้งเพื่อนำเสนอต่อผู้ที่จะเข้ามาขับเคลื่อนนโยบายกประเทศเพื่อให้ได้เนื้อหาที่นำไปสู่การปฏิรูปจริงๆ
“เรามีจุดที่จะเสนออยู่ว่าอยากให้เกิดการปฏิรูปอะไรบ้าง ซึ่งส่วนที่อยากเห็นการปฏิรูปก็อย่างเช่น เรื่องการต่อต้านคอร์รัปชัน เรื่องกฎหมาย กระบวนการยุติธรรม องค์กรอิสระต่างๆที่ต้องให้มีความเข้มแข็ง ตลอดจนให้เกิดระบบที่ประชาชนมีส่วนร่วมมากขึ้น ซึ่งรายละเอียดของแต่ละด้านจะต้องคุยกันอีกยาว” นายประมนต์ กล่าว
นายประมนต์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2557 องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน ฯ ได้จัดมหกรรมรวมพลังแห่งชาติ “เดิน วิ่ง ปั่น ต้านโกง” เพื่อประกาศเจตนารมณ์ต่อต้านการ “โกง” จุดประสงค์การจัดงานเพื่อกระตุ้นให้เกิดการตื่นตัวในกลุ่มประชาชนทั่วไปถึงสถานการณ์คอร์รัปชั่นในประเทศ ที่ขณะนี้ถือว่าอยู่ในภาวะเสี่ยงสูงสุด เห็นได้จากการจัดอันดับความโปร่งใสขององค์กรนานาชาติที่ให้อันดับความโปร่งใสของไทยลดลงจากอันดับที่ 88 มาเป็นอันดับที่ 102
โดยในงานนี้ มีทั้งภาคธุรกิจและประชาชนคนไทยจำนวนมากที่เข้าร่วมกิจกรรม โดยทุกคนมาด้วยหัวใจที่รักชาติ มาด้วยความตั้งใจจริงที่จะประกาศให้คนโกงในแผ่นดินไทย ได้รู้ว่าพวกเราจะต่อต้านการคอร์รัปชันทุกรูปแบบอย่างถอนรากถอนโคน พวกเราพร้อมสู้เพื่อกอบกู้อนาคตของประเทศไทย พวกเราจะไม่ยอมให้เกิดการทุจริตโกงกินที่เป็นการดูถูกสติปัญญาประชาชน และไม่เห็นแก่อนาคตของชาติอีกต่อไป ความร่วมมือของคนไทยทุกคนทั้งประเทศจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน ไม่ช้าก็เร็ว
นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธาน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ปัญหาคอร์รัปชันสร้างปัญหาทั้งต่อธรรมาภิบาลและจริยธรรม ซึ่งในแง่ธุรกิจก็ทำให้เกิดความล่าช้าในกระบวนการต่างๆสร้างต้นทุนที่สูงขึ้น ซึ่งถ้าปัญหาต่างๆ ถูกแก้ให้ไขให้ลดลงหรือหมดไปจะทำให้ประเทศไทยแข็งแกร่งขึ้น คนทำธุรกิจก็ทำด้วยความสบายใจ
ทั้งนี้ หากมีรัฐบาลใหม่เข้ามาสิ่งที่อยากให้เกิดการปฏิรูปมีหลายด้านทั้งการป้องกันคอร์รัปชันเพราะยุคสมัยที่เปลี่ยนไปเทคนิคการคอร์รัปชันก็เปลี่ยนไปด้วย การปรับโครงสร้างอุตสาหกรรม ปฏิรูปกฎหมาย การศึกษา และภาคสังคมอีกหลายด้านด้วยกัน แต่หากเป็นภาคอุตสาหกรรมอยากเห็นการส่งเสริมให้ไปสู่อุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีที่สูงขึ้นลดการใช้แรงงานเข้มข้น ไปสู่การเป็นอุตสาหกรรมสีเขียว แต่ก็ต้องสนับสนุนเอสเอ็มอีไปพร้อมกัน และภาครัฐต้องเร่งลงทุนเพื่อปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำธุรกิจให้กับเอกชน
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ค่อนข้างกังวลต่อสถานการณ์การเมืองในประเทศ อยากให้คลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นและจบโดยเร็วเพราะตอนนี้เป็นจังหวะที่เศรษฐกิจโลกกำลังดีขึ้น แต่ถ้าการเมืองยังยืดเยื้อเศรษฐกิจไทยจะไม่ได้รับประโยชน์จากแนวโน้มดังกล่าว
นายพยุงศักดิ์ กล่าวว่า ตอนนี้เห็นสัญญาณว่าการส่งออกอาจจะชะลอตัวต่อเนื่องในไตรมาสแรกของปี 2557 เพราะตอนนี้พบว่าผู้ส่งออกมีการนำเข้าวัตถุดิบในการผลิตเพื่อส่งออกลดลง ขณะที่คู่ค้าก็เริ่มไม่แน่ใจว่าผู้ส่งออกไทยจะส่งออกสินค้าได้หรือไม่ ซึ่งหากการส่งออกชะลอตัวต่อเนื่องไป การใช้กำลังการผลิตลดลงในที่สุดก็จะกระทบกับการจ้างงานและการบริโภค ในประเทศ
นายวิเชียร อุษณาโชติ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.บางจากปิโตรเลียม กล่าวว่า ในภาคพลังงานที่อยากให้เกิดการปฏิรูปคือนโยบายราคาพลังงานที่ต้องสะท้อนต้นทุนแท้จริงเพื่อให้ประชาชนเลือกใช้พลังงานได้อย่างถูกต้องยกเว้นบางนโยบายที่ต้องการการสนับสนุนเช่น การส่งเสริมพลังงานทดแทน