posttoday

วิชั่น"ธนินท์"ยึดครองตลาดโลก

04 กรกฎาคม 2556

ฟอร์บส์ ประเทศไทย เปิดวิสัยทัศน์ “เจ้าสัวธนินท์” อภิมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของไทยที่ไม่หยุดนิ่ง

ฟอร์บส์ ประเทศไทย เปิดวิสัยทัศน์ “เจ้าสัวธนินท์” อภิมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของไทยที่ไม่หยุดนิ่ง

นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) นักธุรกิจระดับอภิมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของไทย ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 3.93 แสนล้านบาท จากการจัดอันดับของนิตยสารฟอร์บส์ล่าสุด ได้ให้สัมภาษณ์พิเศษนิตยสารฟอร์บส์ ประเทศไทย ในฉบับเดือน ก.ค.นี้ แม้จะก้าวเข้าสู่วัย 74 ปี แต่เจ้าสัวซีพียังคิดค้นโครงการใหม่ๆ อย่างไม่เคยหยุดนิ่ง

นายธนินท์ เปิดเผยในฟอร์บส์ ประเทศไทย ว่า แผนชีวิตเดิมที่เคยวางไว้ว่าจะเกษียณในวัย 55 ปี ต้องเปลี่ยนไปทันทีที่เจอวิกฤตเศรษฐกิจเมื่อปี 2540 เพราะต้องสะสางหลากปัญหาหลังรัฐบาลประกาศลดค่าเงินบาทในเวลานั้น จำใจต้องดึงยักษ์ค้าปลีกจากอังกฤษ “เทสโก้” เข้ามาร่วมทุนในโลตัส ซูเปอร์มาร์เก็ต ต้องขายหุ้นห้างค้าส่งแม็คโคร ส่วนธุรกิจโทรคมนาคมในขณะนั้นเป็นหนี้สินมาก

อย่างไรก็ตาม 16 ปีผ่านไป ซีพีในวันนี้ไม่ได้แข็งแรงเฉพาะตลาดในไทยเท่านั้น แต่ยังแผ่อาณาจักรไปยังภูมิภาคอาเซียน และตลาดสำคัญๆ ทั่วโลก โดยปัจจุบันมีด้วยกัน 4 บริษัทของ 3 ธุรกิจหลักในเครือ ได้แก่ 1.อุตสาหกรรมเกษตรและอาหาร ในนามซีพีเอฟ 2.ค้าปลีกและค้าส่ง ในนามซีพี ออลล์ และสยามแม็คโคร ซึ่งเพิ่งซื้อคืนกลับมาทั้งหมดในช่วงเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา และ 3.โทรคมนาคม ในนามทรู คอร์ป ซึ่งทุกบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ มีมูลค่ารวมในตลาด (มาร์เก็ตแคป) กว่า 9 แสนล้านบาท

วิสัยทัศน์ที่ขับเคลื่อนกลุ่มซีพีให้เติบโต นายธนินท์ ได้วางไว้ 2 แนวทางหลัก นั่นคือ “อาหารสมอง” และ “อาหารปากท้อง” โดยในส่วนของอาหารสมอง จะมีทรูเป็นเรือธงหลัก ได้แก่ ทรูวิชั่นส์ ทรูมูฟ รวมถึงการเพิ่มช่องทางรับรู้ข่าวสารทั้งบนเคเบิ้ลทีวี และโทรศัพท์เคลื่อนที่ ตั้งแต่ดูข่าวโทรทัศน์ อ่านหนังสือพิมพ์ ดูภาพยนตร์ รวมทั้งการเตรียมการเข้าประมูลใบอนุญาตดิจิตอลทีวี

ทางด้านอาหารปากท้อง ขับเคลื่อนภายใต้โจทย์สำคัญ “ครัวของโลก” ที่เริ่มจากสินค้าเกษตรแปรรูปสู่มือผู้บริโภคตั้งแต่ระดับหมู่บ้านจนถึงระดับนานาชาติ รวมถึงการสร้างแนวคิด “ตู้เย็นชุมชน” ที่จำหน่ายสินค้าพร้อมปรุงของซีพีในระดับชุมชน ส่วนระดับประเทศและตลาดโลก อาศัยช่องทางของซีพี ออลล์ และแม็คโครเป็นช่องทางหลัก

สำหรับการส่งไม้ต่อทางธุรกิจ แม้วันนี้นายธนินท์จะยังบอกไม่ได้ว่า จะวางมือจากธุรกิจเมื่อไร แต่มีแผนโอนอำนาจให้ลูกชายแต่ละคนอย่างชัดเจน โดยลูกชายคนโต “สุภกิต” ดูแลธุรกิจเกือบทั้งหมดของซีพีในจีน ส่วนคนรอง “ณรงค์” ดูแลธุรกิจค้าปลีกในจีน ส่วนลูกชายคนเล็ก “ศุภชัย” ที่ปัจจุบันดูแลธุรกิจสื่อสาร ทรู คอร์ป และเตรียมผลักดันให้ขึ้นเป็นซีอีโอของเครือเจริญโภคภัณฑ์ต่อไป