กระจายไวไฟให้กระจุยด้วยแอร์สเตชัน WCR-HP-300

โดย...โยโมทาโร่

แกดเจ็ตวันนี้ผมเชื่อว่าเป็นแกดเจ็ตที่ค่อนข้างเฉพาะกลุ่ม และต้องใช้เวลาทดสอบนานพอดูเหมือนกัน เพื่อจะหาว่าสินค้าตัวนี้เหมาะกับใคร ใช้ที่ไหน และคุ้มค่าพอที่จะลงทุนติดตั้งอุปกรณ์นี้เพิ่มเติมหรือเปล่า หลังจากที่เราทดสอบอยู่นานก็พบว่านี่คืออุปกรณ์เสริมการใช้งานอินเทอร์เน็ต ที่ช่วยให้คุณประหยัดเงินค่าอินเทอร์เน็ตและค่าไฟ โดยยังคงประสิทธิภาพได้อย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งก็คือตัว บัฟฟาโล แอร์สเตชัน โมเดล WCR-HP-300

นี่ไม่ใช่เราเตอร์ที่เสียบสายโทรศัพท์เพื่อใช้แทนไวไฟ เราเตอร์ ตัวเดิมอย่างที่เข้าใจกัน แต่นี่คือตัวที่เรียกว่าไวร์เลส เรนจ์ เอ็กซ์เทนเดอร์ หรือที่เราจะเรียกต่อจากนี้ว่า แอร์สเตชัน มาทำหน้าที่กระจายสัญญาณไวไฟเดิมให้ครอบคลุมพื้นที่มากขึ้น โดยเฉพาะบ้านที่พบปัญหา ใช้ไวไฟได้แค่พื้นที่ชั้น 1 แต่ชั้น 2-3 ในห้องสัญญาณต่ำจนเข้าใช้งานอินเทอร์เน็ตไม่ได้ หรือเข้าได้แต่ก็ช้ามาก

ทางแก้ปัญหาก็คือ เปลี่ยนไวไฟ เราเตอร์ ดราฟ G ไปเป็นแบบดราฟ N ซึ่งมีระยะส่งที่ไกลกว่าเดิม แต่ถ้าเป็นบ้านขนาดใหญ่หรืออยู่ในระดับคล้ายๆ จะเรียกว่าคฤหาสน์ เราเตอร์ ดราฟ N อาจแก้ปัญหานี้ไม่ได้ การใช้ตัวแอร์สเตชันดูเป็นทางเลือกที่เหมาะสมมากที่สุด เพราะเป็นตัวที่ขยายสัญญาณไวไฟในบริเวณจุดอับสัญญาณ โดยที่ความเร็วไม่ได้ลดลงไปตามความแรงของสัญญาณเหมือนกับการใช้เราเตอร์ ดราฟ N เพียงตัวเดียว ซึ่งการใช้งานแอร์สเตชันตัวนี้ง่ายมากครับ

วิธีที่ 1 คือใช้วิธีเดินสายแลนยาวๆ จากเราเตอร์หลัก แล้วต่อเข้าแอร์สเตชันในจุดอับสัญญาณ วิธีนี้เหมาะสำหรับการเดินสายจากบ้านหลังใหญ่ไปยังบ้านหลังเล็ก หรือบางบริเวณในบ้านที่ไม่สามารถจับสัญญาณไวไฟได้เลย แค่เสียบสายเปิดเครื่อง โน้ตบุ๊กจะเห็นไวไฟและสามารถเชื่อมต่อได้ทันที แต่ถ้ากลัวเพื่อนบ้านเข้ามาช่วยใช้ก็เข้าไปตั้งค่าใส่รหัส ตามคู่มือภาษาไทยที่ให้มาเท่านั้น

วิธีที่ 2 ให้แอร์สเตชันจับสัญญาณไวไฟบ้านที่ใช้อยู่ แล้วสวมรอยขยายสัญญาณให้แรงขึ้น วิธีนี้ค่อนข้างซับซ้อนคือเราต้องใช้โน้ตบุ๊กเสียบสายแลนเข้ากับตัวเครื่องแอร์สเตชัน เปิดโปรแกรมบราวเซอร์ไออี (ต้องใช้ไออีเท่านั้น บราวเซอร์อื่นอาจแสดงผลผิดพลาด หากใช้เครื่องแมคสามารถตั้งค่าในบราวเซอร์ซาฟารีได้) เข้าใช้งานตามคู่มือโดยเลือกโหมดวิซาร์ดช่วยตั้งค่าต่างๆ ให้อัตโนมัติ ค้นหาไวไฟที่ต้องการเชื่อมต่อ เลือกชื่อที่ต้องการเชื่อมต่อ ใส่รูปแบบการเข้ารหัสและพาสเวิร์ด โปรแกรมจะใช้เวลาประมาณ 1-2 นาที ในการสวมรอยไวไฟ จากนั้นเราก็ใช้งานไวไฟที่ไหนก็ได้ในบ้านโดยไม่มีปัญหา

วิธีที่ 3 เชื่อมต่อกับฮอตสปอต จากไมไฟ (Mi-Fi) หรือสมาร์ตโฟนระบบแอนดรอยด์ที่กระจายสัญญาณไวไฟได้ ซึ่งหลายคนเสียค่าอินเทอร์เน็ต 3จี เดือนละเกือบพันบาท ใช้แค่บนโทรศัพท์มือถือ หรือต่อกับโน้ตบุ๊กเพียงตัวเดียวก็ไม่ค่อยคุ้มเท่าไหร่ แถมกระจายสัญญาณได้ไม่เกินระยะ 10 เมตร ดังนั้นถ้าอยากให้ใช้คุ้มกว่าเดิมเผื่อแผ่ให้คนในบ้านช่วยกันใช้ ก็ต้องใช้ตัวแอร์สเตชันกระจายสัญญาณให้ไกลขึ้นครับ ส่วนวิธีการตั้งค่านั้นเหมือนกับวิธีที่ 2

ทั้ง 3 วิธีนี้ช่วยทำให้เราสามารถเล่นไวไฟในสวนหน้าบ้าน ในห้องน้ำตอนเช้าๆ โดยที่ความเร็วใช้งานแทบไม่ตกเลย ประโยนช์ทางอ้อมยังช่วยลดค่าอินเทอร์เน็ตหรือใช้อินเทอร์เน็ตให้คุ้มเงินมากขึ้น ส่วนคนที่กังวลเรื่องค่าไฟผมบอกได้เลยว่ากินไฟเพียง 4 วัตต์เท่านั้น ถ้าใช้วันละ 18 ชั่วโมง 30 วัน จะเสียค่าไฟประมาณ 8 บาทเท่านั้น (คำนวณจากเว็บการไฟฟ้า)

เท่าที่ใช้งานมาพบปัญหาเดียวคือตั้งค่าค่อนข้างยุ่งยาก แต่พอตั้งผ่านแล้วทุกอย่างก็แฮปปี้ ความเร็วอินเทอร์เน็ตไม่ตกลงตามระยะห่างจากเราเตอร์หลักเหมือนแต่ก่อน สัญญาณนิ่งแถมแรงกว่าเดิม เพราะใช้เสาอากาศยาวถึง 2 เสา ทำให้ส่งสัญญาณได้ไกลและครอบคลุมพื้นที่ได้มากขึ้น

ความเร็วอินเทอร์เน็ตก็แทบไม่ตกหรือใช้ได้อย่างลื่นไหลมากในกรณีที่มีเครื่องต่อไม่เยอะ ใช้ต่อเนื่องวันละ 12 ชั่วโมง ก็ยังไม่พบปัญหาเรื่องความร้อนมากนักตัวเครื่องแค่อุ่นๆ เล็กน้อยไม่ถึงกับร้อนจนน่ากลัว ส่วนความสามารถอื่นๆ ที่ประทับใจ ก็อย่างเช่น กำหนดสิทธิและจำกัดความเร็วในการใช้งานได้ สามารถสร้างจุดเชื่อมต่อไวไฟเพิ่มได้ 3 จุด

จุดที่ชอบที่สุดก็คือสามารถตั้งเวลาเปิดปิดเครื่องในรอบสัปดาห์ได้ เช่น วันหยุดอยู่บ้านทั้งวันก็ให้เปิดเครื่องอัตโนมัติตั้งแต่เวลา 7 โมงเช้าไปถึงเที่ยงคืน ส่วนวันธรรมดาก็ตั้งตามเวลาเข้าออกบ้าน ไม่ต้องคอยเดินมาเปิดปิดสวิตช์ไฟบ่อยๆ

ทำให้เครื่องนี้เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาสัญญาณไวไฟในบ้านไม่ทั่วถึง คนที่ต้องการใช้อินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 3จี โดยไม่กังวลกับระยะทางฮอตสปอต คนที่ต้องการใช้ร่วมกับเราเตอร์แบบสายแลนเดิมๆ รวมทั้งสำนักงานประเภทโฮมออฟฟิศที่ต้องเชื่อมวงแลนแบบไวเลส แอร์สเตชัน โมเดล WCR-HP-300 กับราคาประมาณ 1,700 บาท ก็นับว่าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย