ซัมซุง กาแลกซี เอส3 สวยใส ใครๆ ก็อยากได้

โดย...เคอร์มิท

มีโอกาสได้นอนกอด...เอ๊ย...ลองใช้ ซัมซุง กาแลกซี เอส3 (Samsung Galaxy S III) อยู่หลายวันหลายคืน ไปไหนต่อไหน ใครเห็นก็อยากได้ ใครเห็นก็ (อยาก) รัก...แหม เจ้าเสน่ห์จริงๆ นะเรา (ซัมซุง กาแลกซี เอส3 น่ะ)

พอพูดถึงดีไซน์ที่ได้แรงบันดาลใจจากธรรมชาติของซัมซุง กาแลกซี เอส3 ทำให้นึกถึงคาซาบัตโย ผลงานของอันโตนี เกาดี ที่แคว้นกาตาลันขึ้นมาทีเดียว บ้านหลังนั้นไม่มีเส้นตรง มีแต่เส้นโค้งเส้นเว้าตามธรรมชาติ เช่นเดียวกับซัมซุง กาแลกซี เอส3 นี้แล

ดีไซน์โค้งมนแสนสวยน่าจับต้องที่สุด มีให้เลือก 2 สี คือ สีขาว (Marble White) และสีน้ำเงิน (Pebble Blue) ซึ่งดูเหมือนสีขาวจะดูเก๋และมาวินในบ้านเรา สมาร์ตโฟนรุ่นนี้มาพร้อมกับระบบใหม่ล่าสุดของแอนดรอยด์ แถมด้วยหน้าจอซูเปอร์ อโมเลด เอชดีกว้างถึง 4.8 นิ้ว โอ้แม่เจ้า... อยากจะเอาอะไรทุกๆ อย่างในโลกนี้มาแลก (หวังว่าเขาจะยอม)

 

ตัวเครื่องพลาสติก โดยเฉพาะที่ฝาหลังอาจจะทำให้ใครต่อใครรู้สึกเซ็ง ไม่คุ้มค่า กันไปบ้าง ก็ราคาไม่ใช่น้อยๆ แม้จะเป็นพลาสติกโพลีคาร์บอเนตชนิดพิเศษที่ช่วยให้มีน้ำหนักเบาก็ตามที เอาหละ...ใครเคืองๆ ก็จับจ้องแต่หน้าจอก็พอนะ

แม้หน้าจอจะใหญ้ใหญ่ แต่ก็บางเฉียบ สามารถใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงได้อย่างไม่เกะกะน่ารำคาญเลย นอกจากจะมาเป็นตัวปราบสมาร์ตโฟนค่ายแอปเปิลแล้ว ยังออกมาทำให้เอชทีซีที่เพิ่งออกแอนดรอยด์รุ่น วัน เอ็กซ์ แอบค้อนเข้าให้

แรงบันดาลใจจากธรรมชาติของซัมซุง กาแลกซี เอส3 ยังมาปรากฏในธีมต่างๆ ที่ออกแบบมาให้เลือกใช้ตามความชอบของผู้ใช้ ไม่ว่าจะเป็นธีมน้ำ ธีมดอกหญ้า และอื่นๆ

ที่ชอบเรื่องการดีไซน์อีกอย่างคือ ปุ่มเมนูและปุ่มย้อนกลับระบบเรืองแสงด้านล่างของตัวเครื่อง จะซ่อนแสงเอาไว้เมื่อไม่ใช้งาน ทำให้ดูคล้ายตัวเครื่องออกแบบมาง่ายและงามจริงๆ ครับพี่น้อง

 

ใครเคยใช้งานระบบแอนดรอยด์ หรือแม้แต่ระบบไอโอเอสของแอปเปิลมาแล้ว คงจะสามารถใช้งานซัมซุง กาแลกซี เอส3 เครื่องนี้ได้อย่างคล่องแคล่ว แน่นอนว่าเครื่องมีให้เล่นครบ โดยเฉพาะโซเชียลเน็ตเวิร์กทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊ก โฟร์สแควร์ ไลน์ อินสตาแกรม ทวิตเตอร์

 

แอนดรอยด์ล่าสุดนี้แสนจะสมาร์ตจริงๆ เพียงไซน์อินจีเมล เข้าระบบเพลย์สโตร์ สิ่งที่เราเคยซื้อๆ โหลดๆ ไว้จากเครื่องอื่นก็ตามมาหมด นอกจากนี้ ยังชื่นชอบการเชื่อมต่อระหว่างโปรแกรมหนึ่งไปยังอีกโปรแกรม แค่กดที่เมนูเลือกการเชื่อมต่อปุ่มเดียว ก็สามารถเชื่อมไปได้ยังทุกๆ โปรแกรมโซเชียลเน็ตเวิร์กตามชอบได้เลย (ต่างจากค่ายแอปเปิลที่เชื่อมต่อได้อย่างมากก็แค่ 4 โปรแกรมเท่านั้น)

มี ซัมซุง กาแลกซี เอส3 อยู่ในมือก็ต้องเล่นกล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซลซะหน่อย และก็ขออนุญาตนำไปเปรียบเทียบกับไอโฟน 4เอส ด้วยนะฮะ ต้องบอกว่า สมาร์ตโฟนค่ายแอปเปิลเขาแจ๋วกว่าครึ่งช่วงตัวอ่ะ โดยเฉพาะการโฟกัสภาพอย่างฉลาด เอส3 ยังไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่ก็มีโหมด “รอคนยิ้มค่อยถ่าย” และระบบ “สั่งให้ถ่ายรูปด้วยเสียง” (พูด “โฟโต้” แล้วกล้องแชะ) ให้เล่นสนุกๆ

 

ที่น่าสนใจอีกอย่างคือ ซัมซุง กาแลกซี เอส3 ย้ายช่องเสียบเชื่อมต่อกับยูเอสบีมาไว้ที่ด้านล่างของตัวเครื่อง เหมือนไอโฟน/ไอพอด เป็นสัญญาณว่าจะให้บรรดาเด๊ก (Deck) หรือด๊อก (Dock) ต่างๆ ช่วยผลิตออกมาเป็นคู่แข่งกับค่ายแอปเปิลกันได้แล้ว

ข้อดีอีกอย่าง (แล้ว) ของซัมซุง กาแลกซี เอส3 ก็คือฝาหลังที่ทำจากพลาสติกโพลีคาร์บอเนตชนิดพิเศษที่คนไม่ชอบนี่แหละ ค่าที่มันเปิดได้แสดงว่าเราสามารถมีแบตสำรอง (จริงๆ แบตก็ใช้งานได้นานพอสมควรเมื่อเทียบกับไอโฟน) และถอดเปลี่ยนได้ทันที ไม่เรื่องเยอะเหมือนมือถือฉลาดค่ายแอปเปิล นอกจากนี้ ยังมีช่องสำหรับใส่ไมโครเอสดี ช่วยเพิ่มความจำของเครื่องได้มากขึ้นอีก (ถ้าเครื่อง 64 กิ๊ก ก็สามารถเพิ่มให้จุได้ถึง 128 กิ๊กทีเดียว)

อย่างนี้ก็ถ่ายรูปเล่นกันกระจายเลยทีเดียวล่ะ

สรุป ภาพรวมแล้วก็ช้อบชอบทีเดียวล่ะ (ไม่ชอบก็บ้าแล้ว) แต่โดยส่วนตัว สำหรับคนใช้สมาร์ตโฟนค่ายแอปเปิลมาอย่างหัวแข็งแล้ว ซัมซุง กาแลกซี เอส3 ยังไม่อาจทำให้เปลี่ยนใจ...นะ