posttoday

หุ้นเดือนตุลา

13 ตุลาคม 2559

โดย...มณฑล จุนชยะ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บลจ. วรรณ

โดย...มณฑล  จุนชยะ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บลจ.วรรณ [email protected]

ตลาดหุ้นไทยกลับเข้าสู่ช่วงของการประกาศผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนอีกครั้ง หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์จะเป็นกลุ่มแรกที่เริ่มรายงานผลประกอบการออกมาก่อน แล้วกลุ่มอื่นๆ จะค่อยทยอยตามมา ในความเห็นส่วนตัวเกี่ยวกับผลประกอบการไตรมาส 3/59 ผมมองว่าผลประกอบการโดยภาพรวมน่าจะออกมาในลักษณะที่ค่อนข้างผสม กล่าวคือ ผลประกอบการอาจจะออกมาดีกว่าหรือแย่กว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์บ้างปะปนกันไป ซึ่งหากผลเป็นเช่นนั้นจริง ปัจจัยดังกล่าวก็อาจสร้างความผันผวนให้กับตลาดหุ้นในระยะสั้นและกระทบบรรยากาศการลงทุนในสัปดาห์หน้า

ทั้งนี้ หากพิจารณาถึงภาพรวมเศรษฐกิจไตรมาส 3 เราจะพบว่าแนวโน้มของการฟื้นตัวดีขึ้นในเกือบทุกภาคส่วน โดยที่การบริโภคภาคเอกชนได้รับปัจจัยหนุนจากการฟื้นตัวของรายได้เกษตรกรตามราคาสินค้าเกษตรที่เพิ่มขึ้นสูงกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวยังคงแข็งแกร่ง แม้ว่าเหตุระเบิดใน 7 จังหวัดภาคใต้ในเดือน ส.ค. และมาตรการจัดระเบียบผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว “ทัวร์ศูนย์เหรียญ” ในช่วงกลางเดือน ก.ย. จะส่งผลกระทบเชิงลบต่อธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวบ้าง เช่น โรงแรมที่พัก ร้านอาหารและภัตตาคาร ร้านค้าส่งและค้าปลีก รวมถึงธุรกิจการขนส่ง 

แต่หากสังเกตยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยจะพบว่ายังคงขยายตัวสูงกว่าปีที่แล้วถึง 10% ส่วนการลงทุนภาคเอกชนปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย แต่ยังกระจุกตัวอยู่ในภาคบริการเป็นหลัก เนื่องจากได้รับอานิสงค์จากการเติบโตของภาคการท่องเที่ยว ในขณะที่ภาคอุตสาหกรรมโดยรวมยังคงมีกำลังการผลิตเพียงพอต่อการขยายตัวของอุปสงค์ แม้แต่ภาคการส่งออกที่ดูเหมือนจะเปราะบางที่สุดในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ตามความอ่อนแอของเศรษฐกิจโลกและการตกต่ำของราคาน้ำมัน แต่ยอดส่งออกเริ่มพลิกกลับมาขยายตัวในเดือน ส.ค. นำโดยสินค้าส่งออกกลุ่มยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ และอิเล็กทรอนิกส์ที่เติบโตโดดเด่น

มองไปข้างหน้า ผมเชื่อว่าเศรษฐกิจไทยจะทยอยปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องในไตรมาส 4 โดยเฉพาะการบริโภคภาคเอกชนที่จะได้รับปัจจัยหนุนจากภาครัฐผ่านมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรและผู้มีรายได้น้อย เช่น มาตรการอุดหนุน 3,000 บาท สำหรับผู้มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อปี และอุดหนุน 1,500 บาท สำหรับผู้มีรายได้ระหว่าง 30,000-100,000 บาทต่อปี มาตรการปรับโครงสร้างหนี้โดยการลดดอกเบี้ย และมาตรการคืนดอกเบี้ย 30% สำหรับผู้ที่ชำระดอกเบี้ยทันกำหนด นอกจากนี้ การเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันหลังจากที่กลุ่ม OPEC บรรลุข้อตกลงเบื้องต้นในการลดกำลังการผลิต จะช่วยหนุนภาคการส่งออก เนื่องจากสินค้าส่งออกของไทยมีความเชื่อมโยงกับราคาน้ำมันถึง 1 ใน 5 ของมูลค่าส่งออกทั้งหมด และประเทศผู้ส่งออกน้ำมันที่เป็นตลาดส่งออกรถยนต์ที่สำคัญของไทยจะมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ดี ผมมองว่าในช่วงที่เหลือของเดือน ตลาดหุ้นไทยน่าจะมีความผันผวนจากการคาดการณ์ผลประกอบการไตรมาส 3/59 รวมถึงความไม่แน่นอนจากโต้วาทีของผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่อาจสร้างความผันผวนในช่วงสั้นๆ ได้ ซึ่งเป็นประเด็นที่ต้องติดตาม โดยเฉพาะการโต้วาที เนื่องจากผลของการโต้วาทีย่อมส่งผลกระทบต่อสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกรวมถึงตลาดหุ้นด้วย 

“ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน”