posttoday

4D เสริมแกร่งธุรกิจดิจิทัล

31 มีนาคม 2564

คอลัมน์ Great Talk

ในยุคที่การแข่งขันทางธุรกิจมีตัวแปรสำคัญ คือ การออนไลน์ (Internet Of Thing) ทำให้ธุรกิจไม่สามารถแข่งขันในรูปแบบเดิมๆได้อีกต่อไป รูปแบบการค้าเดิมๆถูกบังคับให้เปลี่ยนไป 

การขายหน้าร้านเพียงอย่างเดียวอาจไม่สามารถทำให้ธุรกิจอยู่รอดได้ เราอาจต้องพึ่งพาช่องทางการขายอย่างอื่นเช่น การขายผ่านหน้าเว็ปของบริษัทตนเอง การมีตัวแทนการค้าส่ง ค้าปลีกหรือสร้างเครือข่ายของทีมเซลล์คล้ายระบบการขายตรง โดยมีการสร้างผลประโยชน์ให้กับทีมงานอย่างเหมาะสม

แนวทางหนึ่งในการกระโดดเข้าสู่การขายออนไลน์อย่างสมบูรณ์ก็ได้แก่การขายผ่านเฟซบุ๊ค ผ่านอินสตราแกรม ผ่านไลน์แมนหรือฟู๊ดแพนด้าเป็นต้น 

ช่องทางการขายที่ยกตัวอย่างล้วนมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันแต่ปัจจัยสำคัญคือ เราต้องคิดถึงต้นทุนการขายที่มากขึ้นจากการฝากให้คนอื่นขายให้(Agent) อาจต้องเสียค่าการจัดการ 30%-50% เป็นต้น 

หากองค์กรของเราไม่ได้คำนวนต้นทุนดังกล่าวนี้ไว้อาจทำให้เกิดสภาวะขาดทุนแม้ว่ามียอดขายเติบโตเข้าข่าย “ขายดีจนเจ๊ง”

ฉบับนี้เรามาดูถึงการวิเคราะห์องค์กรเพื่อเสริมความแข็งแกร่งในโลกยุคดิจิทัล กันด้วย 4D กันครับ

Disruption of economic models เป็นการเตรียมองค์กรเพื่อรับมือกับความปั่นป่วนของโลกยุคอินเตอร์เน็ตอย่างสมบูรณ์ องค์กรต้องมีหน้าที่วิเคราะห์ในทุกเครือข่ายของธุรกิจหรือสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับระบบเศรษฐกิจที่บริษัทเราหรือสินค้าบริการที่เราจัดจำหน่ายเกี่ยวข้อง 

โดยอาจต้องทำแผนงานวิเคราะห์สภาพธุรกิจ(Organization Checklist) หรืออาจมีการวิเคราะห์มูลค่าของ แบรนด์(Brand Personalize) เพื่อประเมินว่าสถานการณ์ปัจจุบัน ลูกค้าหรือพาทเนอร์ของเรายังประเมินมูลค่าของธุรกิจเราเปลี่ยนไปอย่างไร 

เช่นหากคุณทำธุรกิจสตูดิโอถ่ายภาพให้เช่า เมื่ออยู่ในยุค Online Disruption มูลค่าของธุรกิจของคุณอาจลดลงเพราะทุกคนสามารถถ่ายภาพหรือบันทึกภาพวีดีโอได้จากอุปกรณ์ที่หาซื้อได้ง่ายและไม่แพง เป็นต้น

Digitalization of the customer experience การสร้างเครือข่ายดิจิตอลไปสู่ประสบการณ์ที่ดีของลูกค้า ในหัวข้อนี้เราต้องหมั่นสร้างการรับรู้ใหม่ๆให้กับลูกค้าระหว่างสินค้าและองค์กรของเรารวมถึงวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคของลูกค้าว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง 

เช่น การจำลองพฤติกรรมลูกค้าตั้งแต่เริ่มลูกจักแบรนด์ของเราจนไปสู่จุดที่ลูกค้าชื่นชอบสินค้าของเรา(Brand Loyalty) โดยอาจจะต้องสร้าง Scenarioเพื่อวิเคราะห์ว่าหากเราพัฒนาสินค้าใหม่โดยไม่พึ่งช่องทางการขายหรือการตลาดแบบเดิม ลูกค้าจะมีโอกาสรู้จักสินค้าของเราไปจนสู่การตัดสินใจซื้อได้หรือไม่

De-silotage of the value chain การปรับเปลี่ยนห่วงโซ่ของคุณค่า Value Chain เปรียบเสมือนช่องทางสำคัญในระบบการบริหารองค์กรเพราะสามารถทำให้องค์กรประสบผลสำเร็จอย่างถาวรแต่ปัจจุบัน ระบบห่วงโซ่ดังกล่าวอาจต้องเปลี่ยนไปเพราะการซื้อขายวัตถุดิบง่ายขึ้น การบริหารต้นทุนด้านขนส่งง่ายขึ้น การบริหารพื้นที่จัดจำหน่ายง่ายขึ้น 

ทุกหัวข้อที่กล่าวดังต่อไปนี้สามารถทดแทนได้ด้วยระบบอินเทอร์เน็ต แต่ผู้บริหารเองต้องคำนึงถึงผลได้ผลเสียที่จะเกิดขึ้นให้ละเอียดอีกด้วย

Diffusion of organization การเคลื่อนไหวและแพร่กระจายภายในองค์กร โดยต้องมีการจัดฝึกอบรมและพัฒนาพนักงาน บุคลากรภายในบริษัท ให้สามารถปรับตัวกับแนวปฏิบัติใหม่ๆ เพื่อการบริหารจัดการที่ดี และตอบสนองในยุคดิจิทัล 

เช่นหากมีการปรับระบบซอฟแวร์ต่างๆเข้ามาใช้ใหม่ต้องมีการฝึกซ้อมถึงการทำงานตั้งแต่ต้นไปจนได้ผลลัพธ์ออกมาและต้องเตรียมฝึกซ้อมสำหรับข้อผิดพลาดต่างๆหากมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันอีกด้วย

นี่แหล่ะครับการปรับตัวในยุคดิจิตอลที่เจ้าของธุรกิจทั่วโลกต้องพบเจออย่างไรก็ตามลองใช้กลยุทธ์ดังกล่าวไปปรับใช้ในธุรกิจของตัวเองกันนะครับ