ทำสิ่งในอดีต เพื่อเข้าใจตัวตน
คอลัมน์ Great Talk
ถึง คุณเกรท ปรมะ
ดิฉันชื่อดาค่ะ คือดิฉันมีลูกแล้วลูกชอบเล่นดนตรี เล่นกีตาร์ร้องเพลงอะไรประมาณนี้ เขาชอบดิฉันก็ยินดีส่งเสริมเขาในทุกๆด้านค่ะ เขาบอกว่าเวลาเขาเล่นดนตรีทำให้เขามีสมาธิและได้อยู่กับโลกของตัวเอง เหมือนโลกทั้งใบเป็นของเขา เหมือนร่างกายเขาอยู่กับเครื่องดนตรีไปเลย
คือดิฉันเป็นห่วงนิดหน่อยค่ะ เขาพูดเหมือนเขาไม่อยากอยู่โลกนี้แล้ว ฟังแล้วดิฉันก็อึ้งๆค่ะ ไม่รู้จะยินดีกับเขาหรือเป็นห่วงเขาดี
ถึง คุณ ดา
ในความเป็นมนุษย์ ศิลปะและดนตรีเป็นรากฐานของมนุษย์ตั้งแต่สมัยบรรพกาลเราสามารถสังเกตุได้ว่าหากเราย้อนอดีตไปยุคสมัยคนป่า การใช้การคำนวนตัวเลขมักใช้สูตรบวกลบคูณหารแบบง่ายๆก็สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้แล้ว(ยกเว้นชนเผ่ามายาหรืออารยันที่ใช้การคำนวนแบบซับซ้อนจนสามารถคำนวนสูตรปฏิทินหรือวงโคจรของดวงดาว) อันนี้ผมพูดถึงพื้นฐานเพื่อดำรงชีวิตนะครับ
เพลงกับศิลปะมักมาคู่กันเสมอถึงขนาดที่ศาสตร์ของบทเพลงสื่อได้ไปถึงจิตใต้สำนึกของมนุษย์เราที่เรียกว่า (Music Psychology)
การจัดการความเครียดมีสามแบบและโดยการเล่นดนตรีนักจิตวิทยามองถึงประโยชน์ในสามด้านด้วยกันคือ
1.Appraisa(เพ่งการประเมิน) เป็นการมุ่งเปลี่ยนความคิด เหมือนกับว่าหากเรามีความเครียดด้านต่างๆเช่นอาจจะผิดหวังกับเรื่องใดๆ เราอาจจะใช้เหตุผลมาวิเคราะห์ หรือเปลี่ยนรูปแบบความคิดไปคิดในด้านที่เราไม่เคยคิด(คล้ายกับสำนวนฝรั่ง Put yourself in someone shoes) “ใจเขาใจเรานั้นแหล่ะครับ”
2. Problem(เพ่งปัญหา) เป็นการมุ่งเปลี่ยนเหตุของความเครียดโดยตรง ซึ่งอาจจะเป็นการกำจัดหรือปรับตัวให้เข้ากับสาเหตุของความเครียด เช่น เปลี่ยนตัวเองหรือปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ให้ได้
3.Emotion(เพ่งอารมณ์) เป็นการมุ่งเปลี่ยนปฏิกิริยาทางอารมณ์ต่อตัวก่อให้เกิดความเครียด เช่นการเจริญสมาธิการทำกรรมฐาน การเบี่ยงเบนความสนใจไปสู่สิ่งอื่น บางคนก็อาจะไปทำสิ่งที่ชอบเช่นทำอาหาร เล่นดนตรี วาดรูป เรียกได้ว่าหันเหไปทำสิ่งที่เป็นด้านศิลปะและดนตรีนี่แหล่ะครับ
หลายๆคนที่ผมเคยพูดคุยด้วย บางทีทำอาหารก็รู้สึกเหมือนโลกทั้งใบมันหายไป
ส่วนตัวผมเองนั้นเวลาขับรถมอเตอร์ไซค์ ผมรู้สึกมีสมาธิเหมือนโลกทั้งใบมันอยู่ตรงหน้าเราเพราะเราต้องจดจ่ออยู่กับทางข้างหน้า(เวลาขับรถยนต์แล้วสิ่งรบกวนมันเยอะเช่นต้องคอยมองโทรศัพท์หรือทำนู่นทำนี่)
ดังนั้นไม่ต้องตกใจหรอกครับหากลูกของคุณดา บอกว่าเหมือนโลกทั้งใบมันหายไป ถ้าเขาบอกแบบนี้แสดงว่าเขากำลังมีสมาธิกับสิ่งที่เขาทำและอาจเป็นการระบายความเครียด ความผิดหวังหรือความรู้สึกแย่ๆของเขาก็ได้ครับ
หากเขาได้ทำไปเรื่อยๆจนกลายเป็นความเชี่ยวชาญเขาอาจกลายเป็นบุคคลสำคัญด้านดนตรีอีกคนหนึ่งของประเทศขึ้นมาก็ได้นะครับ
มนุษย์เรามีความชอบไม่เหมือนกัน บางคนอยากเป็นนักดนตรีแต่พอเล่นดนตรีไปเรื่อยๆจนโตกลับไม่ได้ทำอาชีพนักดนตรี บางคนอยากเป็นนักบินแต่พอโตขึ้นกลับมาเป็นตำรวจ เราทุกคนล้วนต้องทำสิ่งบางอย่างในอดีตเพื่อให้เข้าใจตัวตนของเราในปัจจุบัน
เราจะไม่มีทางรู้อนาคตถ้าเราไม่ผ่านเรื่องราวในอดีตที่กลายเป็นประสบการณ์ของเราครับ