posttoday

เอาจริง!! เคาะ 4 เส้นทางจราจรกำหนดความเร็วไม่เกิน 120 กม./ชม.

02 สิงหาคม 2562

'คมนาคม' นำร่อง “สุขุมวิท-พหลฯ-เพชรเกษม-มิตรภาพ” รถยนต์ขับช้ากว่ากฎหมายกำหนดเตรียมถูกจับแน่

'คมนาคม' นำร่อง “สุขุมวิท-พหลฯ-เพชรเกษม-มิตรภาพ” รถยนต์ขับช้ากว่ากฎหมายกำหนดเตรียมถูกจับแน่

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่าได้สั่งการให้กระทรวงคมนาคมจัดประชุมคณะทำงาน เพื่อแปลงนโยบายของกระทรวงคมนาคมไปสู่หลักการดำเนินการ โดยเฉพาะนโยบายแก้กฎกระทรวงคมนาคม เพื่อขยายอัตราจำกัดความเร็วบนถนน 4 ช่องจราจรทั่วประเทศ ที่สามารถใช้ความเร็วได้ไม่เกิน 120 กม./ชม. โดยในส่วนของ 2 ช่องจราจรด้านขวาสุดจะกำหนดความเร็วในการขับขี่ห้ามต่ำกว่า 80-120 กม. เท่านั้น

ทั้งนี้ จะมีการประชุมคณะทำงานภายในสัปดาห์หน้า ก่อนที่จะสรุปผลการประชุมเสนอไปยังคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก หรือ คจร. ต่อไป อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าจะดำเนินการโดยเร็วที่สุด

สำหรับคณะทำงานดังกล่าวนั้น จะมีนายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธาน ในส่วนของคณะทำงาน ประกอบด้วย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หรือ สตช., พลตำรวจเอก อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หรือ ผู้ว่า กทม.

พร้อมด้วยหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมทางหลวง หรือ ทล., การทางพิเศษแห่งประเทศไทย หรือ กทพ. สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร หรือ สนข. และกรมการขนส่งทางบก หรือ ขบ. เป็นต้น

ทั้งนี้ ในส่วนของถนน 4 ช่องจราจรที่จะนำร่องดำเนินการขยายอัตราจำกัดความเร็วนั้น ในเบื้องต้นกำหนดไว้ 4 เส้นทาง ได้แก่ ถนนสุขุมวิท ถนนพหลโยธิน ถนนเพชรเกษม และถนนมิตรภาพ ซึ่งถือเป็นถนนสายหลักที่มีปริมาณการจราจรเป็นจำนวนมาก โดยจะมีการกำหนดความเร็วในแต่ละช่องจราจร เช่นเดียวกับในต่างประเทศ คือ เลนที่ 1 ซ้ายสุด กำหนดอัตราความเร็วไม่เกิน 60 กม./ชม. ช่องที่ 2 ถัดมา กำหนดอัตราความเร็วไม่เกิน 80 กม./ชม. ช่องที่ 3 กำหนดอัตราความเร็วไม่เกิน 100 กม./ชม. และช่องที่ 4 ทางด้านขวาสุด กำหนดอัตราความเร็วไม่เกิน 120 กม./ชม.

“เรื่องนี้ ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะในต่างประเทศ มีการกำหนดความเร็วเป็นเลนเลย จะวิ่งความเร็วไหน ก็วิ่งในเลนนั้น ต่อกันเป็นขบวน ไม่ต้องแซงกัน หลังจากนี้ จะทำความเข้าใจ เพราะเราศึกษามาแล้ว ไม่อย่างนั้นคงไม่มาทำเป็นนโยบาย โดยยืนยันว่าจะดำเนินการเร็วที่สุด ผมอยากได้วันนี้ วันพรุ่งนี้เลย” นายศักดิ์สยาม กล่าว

สำหรับผู้ขับขี่ที่ไม่ปฏิบัติตามความเร็วที่กำหนดใน 2 ช่องจราจรขวาสุดนั้น จะต้องมีโทษตักเตือนไปจนถึงโทษปรับตามกฎหมายหากมีการทำผิดซ้ำซ้อน เป็นการลดปริมาณรถขับช้าที่ชอบแช่ช่องจราจรขวาสุด โดยครอบคลุมเฉพาะรถยนต์ส่วนบุคคลเท่านั้น

ส่วนด้านรถบรรทุกและรถโดยสารสาธารณะยังบังคับใช้กฎหมายความเร็วเท่าเดิม คือ 80-90 กม. ให้สอดคล้องกับมาตรการ GPS ตรวจจับความเร็วของกรมการขนส่งทางบก หรือ ขบ.