"บิ๊กตู่"หวังยกระดับประเทศพ้นกับดักรายได้ปานกลาง-ดันอีอีซีให้สำเร็จ
พล.อ.ประยุทธ์เปิดงานฉลองครบ72ปี บริษัท บางกอกโพสต์ ประกาศยกระดับประเทศไทยพ้นจากกับดักรายได้ปานกลางเป็นประเทศที่รายได้สูง และมีความเท่าเทียม
พล.อ.ประยุทธ์เปิดงานฉลองครบ72ปี บริษัท บางกอกโพสต์ ประกาศยกระดับประเทศไทยพ้นจากกับดักรายได้ปานกลางเป็นประเทศที่รายได้สูง และมีความเท่าเทียม
เมื่อวันที่ 1 ส.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวตอนหนึ่งระหว่างเป็นประธานเปิดงานฉลองครบรอบ 72 ปี บริษัท บางกอกโพสต์ว่า รัฐบาลต้องการยกระดับประเทศไทยให้พ้นจากกับดักรายได้ปานกลางเป็นประเทศที่รายได้สูง เพราะสินค้าของไทยมีศักยภาพสูง และต่างประเทศมีความเชื่อมั่น ดังนั้นจากนี้ไปจะต้องผลิตสินค้าแข่งขันในต่างประเทศ เช่น การลดต้นทุนการผลิต
อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่สุดคือการพัฒนาเศรษฐกิจให้เกิดประโยชน์แก่คนทุกระดับทั้งคนรวย คนรายได้ปานกลาง และคนมีรายได้น้อย จะทำอย่างไรให้ทุกคนอยู่ด้วยกันได้ เพราะอยู่ในระบบการค้าเสรี จะทำอย่างไรให้ทุกคนได้เข้าถึงโอกาส โดยเพราะการปฏิบัติตามกฎหมายเพราะคือสิ่งเดียวที่ทำให้ทุกคนเท่าเทียม เกิดความโปร่งใส และมีประสิทธิภาพ
นายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลต้องทำโครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ให้สำเร็จ โครงการนี้ไม่ได้เอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง จึงไม่อยากให้วิพากษ์วิจารณ์โดยที่ปราศจากข้อมูล เพราะจะทำให้การทำงานยากขึ้น ขอให้ช่วยกันติดตามโครงการอีอีซีว่าจะไม่ไปย้ายคนออก แต่จะทำให้เป็นโครงการที่ต้องพัฒนาในทุกๆ ด้าน เช่น พัฒนาการศึกษา สนับสนุนอาชีวะ ลงทุนการวิจัย และพัฒนา เช่น อีอีซี (ไอ) นวตกรรม หรือ อีอีซี (ดี)ดิจิทัล โดยต้องมีพื้นที่ประกอบการวิจัยและพัฒนารองรับ ซึ่งพื้นที่อีอีซีจะเป็นแหล่งสร้างคนขึ้นมาตอบสนองงานในอนาคต
"รัฐบาลไม่ได้ทิ้งคนในพื้นที่ เช่น ระบบน้ำประปา ไฟฟ้า ถนน ต้องดูแลคนในพื้นที่ จ.ระยอง จันทบุรี และ ฉะเชิงเทรา มีความพร้อมด้านศักยภาพ ในอนาคตอาจมีนอร์ท อีอีซี หรือ เซ้าท์ อีอีซี โดยจะเป็นการพัฒนาอุตสาหกรรมที่จะสอดคล้องกับ 5 หรือ 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย ที่ผ่านมารัฐบาลเชิญชวนผู้ลงทุนจากหลายประเทศ มีบริษัทมาลงทุนคิดเป็นเม็ดเงินจำนวนมหาศาล
"รวมถึงจัดจัดแมทชิ่งระหว่างนักธุรกิจหรือสมาคมระหว่างไทยกับต่างประเทศได้มาเจอกัน ไม่ใช่รัฐบาลปล่อยให้ภาคธุรกิจเดินอย่างเดียว ที่ผ่านมามีการปลดล็อคปัญหาต่างๆ มากมาย เน้นการพัฒนาที่ต้องรักษาสมดุลทางธรรมชาติ เช่น การบริหารจัดการน้ำเสีย การดูแลป่าไม้" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ประเทศต้องพัฒนาทุกด้านและต้องยกศักยภาพให้ทัดเทียมกับอาเซียน เพราะถ้าประเทศไทยหยุด อาเซียนก็หยุดด้วย เพราะไทยมีบทบาทนำในอาเซียน และฐานเศรษฐกิจพื้นฐานไทยดีมาก โดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐาน ดังนั้นทุกโครงการต้องบริหารครอบคลุมทุกมิติทั้งคนและงบประมาณ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า รัฐบาลมีแผนสร้างรถไฟ 2,000 กม. ที่ผ่านมาไม่มีรัฐบาลไหนทำได้ ตอนนี้จะทำรถไฟรางคู่ไปแพร่-เด่นชัยที่เรียกร้องมา 107 ปี ซึ่งจะต้องรับฟังความคิดเห็น เวนคืน และก่อสร้าง
อย่างไรก็ตามนายกฯ ย้ำด้วยว่า ต้นปีหน้าก็ต้องมีเลือกตั้ง เว้นแต่จะตีกันจนเลือกไม่ได้ หรือหากตีกันแล้วก็ยังจะเลือกตั้ง คราวก่อนนี้ก็ตีกัน ซึ่งอยากให้เลือกก็เลือกกันไป การลงพื้นที่ไปจังหวัดต่างๆ ไม่ใช่เรื่องการเมือง แต่ไม่อยากรับฟังรายงานสรุปอย่างเดียว ไปดูเพื่อจะได้เห็นว่าอันไหนไม่ดีก็ให้ไปแก้ไขมาใหม่
“อนาคตอยู่ในมือพวกเราทุกคนการเลือกตั้งเป็นกระบวนการหนึ่งตามระบอบประชาธิปไตย อย่าให้ความเข้าใจแตกต่างกันหรือรังเกียจกันมาทำให้เป็นศัตรูกัน ในอนาคตเราต้องไม่ทำให้เกิดการเสียหายต่อการใช้จ่ายงบประมาณ ซึ่งผมระมัดระวังเรื่องเหล่านี้อยู่แล้ว” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
