ตั๋วร่วมรถเมล์ส่อเลื่อน คาดไม่ทัน1ต.ค.

ขสมก.หวั่นตั๋วร่วมรถเมล์ไม่ทันใช้ตามแผน หลังระบบ E-Ticket ไม่รองรับ ต้องสั่งรื้อทั้งหมด 2,600 คัน นัดถกหาทางออกภายในเดือนนี้

แหล่งข่าวจากองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า การเชื่อมต่อระบบการขนส่งด้วยบัตรใบเดียวหรือตั๋วร่วมในงานบริการรถเมล์สาธารณะ โดยกำหนดจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.นั้นอาจไม่ทันตามเป้าหมาย เนื่องจากยังติดปัญหาหลายด้าน โดยเฉพาะโครงการเครื่องอ่านบัตรค่าโดยสารรถประจำทางสาธารณะ (E-Ticket) และเครื่องหยอดเหรียญเก็บค่าโดยสาร (Cash Box) ติดตั้งบนรถโดยสาร 2,600 คัน วงเงิน 1,665 ล้านบาท

ทั้งนี้ เนื่องจากบริษัท ช.ทวี หรือ CHO ยังไม่สามารถส่งมอบ E-Ticket ได้ตามแผน ขณะนี้ส่งมอบได้เพียง 100 คัน และจะส่งมอบล็อตที่ 2 จำนวน 700 คัน ในวันที่ 27 มิ.ย.หลังจากนั้นจะส่งมอบล็อตสุดท้ายอีก 1,800 คัน แต่ทั้งนี้ยังไม่สามารถรับมอบได้อย่างเป็นทางการเพื่อนำ E-Ticket มาใช้สแกนบัตรแมงมุมหรือตั๋วร่วมได้ เนื่องจากต้องรอหนังสือตอบกลับจากกรมบัญชีกลางเพื่อดำเนินการยกเลิกสัญญาบางส่วน หลังจากที่ Cash-Box ใช้การไม่ได้ ที่ผ่านมาได้รอหนังสือตอบกลับมาตั้งแต่ต้นปี 2560

นอกจากนี้ ยังมีปัญหาด้านเทคนิค โดยเฉพาะเรื่องของระบบซอฟต์แวร์ E-Ticket ที่ไม่สามารถเชื่อมต่อกับระบบตั๋วร่วมของรัฐบาลได้ ขณะนี้ยังไม่มีการเจรจาว่าใครจะเป็นรับผิดชอบค่าใช้จ่ายและบริษัทเอกชนจะยอมลงทุนเพิ่มหรือไม่ เนื่องจากข้อผิดพลาดดังกล่าวเป็นเรื่องระดับนโยบายที่กำหนดให้ใช้ซอฟต์แวร์ตั๋วร่วมเป็น 2.5 และไม่ทราบว่าต้องใช้เวลาแก้ไขนานแค่ไหน หรือจะแล้วเสร็จได้ในปีนี้หรือไม่ อย่างไรก็ตามภายในเดือนนี้ ขสมก.จะจัดประชุมร่วมกับกระทรวงคมนาคม สนข.และฝ่ายเอกชนอย่าง ช.ทวี เพื่อหาทางออกปัญหาดังกล่าว ร่วมกันต่อไป

นายอภิวัฒน์ ไทรศักดิ์สิทธิ์ ผู้จัดการฝ่ายเดินรถ บริษัท มารัตน์ทรานสปอร์ต กล่าวถึงผลประกอบการการเดินรถเส้นทาง R26E ช่วงสถาบันการแพทย์จักรี นฤบดินทร์-โรงพยาบาลรามาธิบดี (ทางด่วน) ระยะทาง 64 กม. ยังไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ของการปฏิรูปรถเมล์ การเปิดให้เอกชนเป็นผู้เข้าประมูลมารับสัมปทานเส้นทาง ตั้งแต่วันที่ 16 ม.ค.จนถึงปัจจุบัน 6 เดือนมีผลขาดทุนกว่าเดือนละ 1 ล้านบาท หรือรวมมากกว่า 6 ล้านบาท เนื่องจากมี ผู้โดยสารน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ ทั้งนี้อยู่ระหว่างรวบรวมปัญหาที่พบเพื่อรายงานต่อกรมการขนส่งทางบก เพื่อเสนอปรับเปลี่ยนเส้นทางบางช่วงที่ทับซ้อนเส้นทางเดินรถเมล์สายอื่น

ภาพประกอบข่าว