posttoday

เกษตรฯผนึก4ชาติกำหนดราคายาง

27 เมษายน 2561

เกษตรฯ เล็งจับมืออินโด มาเลย์ เวียดนาม ตั้งบอร์ดกำหนดราคายางพาราของผู้ผลิตยางรายใหญ่ของโลกเทียบชั้นโอเปก

เกษตรฯ เล็งจับมืออินโด มาเลย์ เวียดนาม ตั้งบอร์ดกำหนดราคายางพาราของผู้ผลิตยางรายใหญ่ของโลกเทียบชั้นโอเปก

นายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า  ได้หารือกับกระทรวงพาณิชย์เพื่อตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อกำหนดราคาซื้อขายยางพาราในประเทศ เพราะปัจจุบันยางพาราเป็นสินค้าควบคุม ซึ่งองค์ประกอบของคณะกรรมการชุดนี้ จะประกอบด้วยภาครัฐ ผู้ประกอบการ และชาวสวนยาง โดยภายใน 3 เดือนนี้น่าจะเห็นคณะกรรมการชุดนี้อย่างเป็นรูปธรรม

นอกจากนี้ จะขยายขอบเขตไปถึงระดับระหว่างประเทศ หลังกระทรวงเกษตรฯ ของไทยได้ประสานงานกับประเทศผู้ผลิตยางพาราอีก 3 ประเทศ คือ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และเวียดนาม โดยมีแนวคิดที่จะตั้งคณะกรรมการกำหนดราคายางพาราสำหรับผู้ผลิตยางพารารายใหญ่ เพื่อสร้างตลาดและการต่อรองของประเทศผู้ผลิตรายใหญ่คล้ายกับกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันอย่างโอเปก ซึ่งขณะนี้แต่ละประเทศมีความเห็นสอดคล้องกันในระดับทูตแล้ว รอเพียงการยืนยันระดับรัฐบาล ซึ่งคาดเดือน พ.ค.จะเห็นความชัดเจน

อย่างไรก็ตาม แม้ขณะนี้ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่ราคายางพาราในประเทศของไทยไม่ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากนัก เนื่องจากค่าเงินบาทที่แข็งค่า โดยล่าสุดยางแผ่นรมควันชั้น 3 อยู่ที่ 50.19  บาท/กิโลกรัม

ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรฯ อยู่ระหว่างดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อรักษาเสถียรภาพของราคายาง แต่จะไม่มีการโค่นต้นยางอย่างแน่นอน เว้นแต่เป็นต้นยางถึงอายุ 25-30 ปี ที่เกษตรกรมีแผนจะโค่นอยู่แล้ว

สำหรับแนวทางการดูแลเสถียรภาพราคานั้นมีทั้งมาตรการในประเทศและระหว่างประเทศ โดยในประเทศคือการเพิ่มการใช้ยางพาราของภาครัฐเป้าหมาย 2 แสนตัน ภายในปีงบประมาณนี้ ซึ่งเชื่อว่าจะทำได้ตามเป้าหมายเพราะหลังจากมีการปรับเกณฑ์และเงื่อนไขการใช้ยางพาราสำหรับงานก่อสร้างต่างๆ แล้วพบว่ายอดการใช้ล่าสุดเพิ่มขึ้นเป็น 3 หมื่นตันแล้ว โดยหน่วยงานหลักที่จะเข้ามาใช้ยางพาราภายใต้มาตรการนี้คือกรมทางหลวงชนบทและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ  

นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กำลังเตรียมออกคำสั่งให้หน่วยงานทหารนำยางพาราในสต๊อกที่มีอยู่ 1.05 แสนตัน ไปใช้ในงานก่อสร้างถนนของกองทัพ โดยคาดว่าจะเป็นการใช้งบกลางเพื่อใช้จ่ายสำหรับมาตรการนี้  ซึ่งสต๊อกที่ลดลงจะสามารถลดแรงกดดันราคาได้อีกทางหนึ่ง