พาณิชย์ชี้ช่องเจาะค้าปลีกอินเดียขยายตัวดี

พาณิชย์แนะเอกชนไทย เกาะติดตลาดค้าปลีกออนไลน์อินเดีย คาดปี 2563 ขยับจาก 8% เป็น 20% เหตุโครงสร้างพื้นฐานด้านอินเทอร์เน็ตพัฒนาไว

นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยภายในงานสัมมนา "เจาะตลาดค้าปลีกอินเดีย โดยมิสเตอร์อินเดีย" ว่า ตลาดค้าปลีกและ โมเดิร์นเทรดในอินเดียมีแนวโน้มการเติบโตที่เร็วมาก คาดว่าภายในปี 2563 สัดส่วนโมเดิร์นเทรดในอินเดียจะขยับขึ้นมาอยู่ที่ 20% ของตลาดค้าปลีกทั้งหมด จากปัจจุบันมีสัดส่วนอยู่ที่ 8% เนื่องจากรัฐบาลอินเดียต้องการให้เกิดการพัฒนาจากภายในประเทศ จึงทำให้เป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทยที่จะเข้าไปมีส่วนร่วมในกระบวนการแปรรูปสินค้าเพื่อส่งจำหน่ายตามโมเดิร์นเทรดที่ขยายตัว

"จะเห็นว่าร้านค้าดั้งเดิมหรือคิราน่าในอินเดียยังมีอยู่มากและเข้มแข็ง แต่ในที่สุดอินเดียจะเกิดการเปลี่ยนแปลงแบบก้าวกระโดดจากร้านค้าดั้งเดิมไปสู่อี-คอมเมิร์ซ เพราะสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตและ ทำออนไลน์ได้ง่ายขึ้น ซึ่งบริษัทเหล่านี้ต้องการหาสินค้าไทยให้เข้าไปอยู่ในแพลตฟอร์มของตัวเอง เพราะสินค้าแบรนด์ไทยเป็นที่ยอมรับของคนอินเดีย" นายอดุลย์ กล่าว
         
นายอดุลย์ กล่าวว่า ล่าสุดมีสตาร์ทอัพ อินเดียที่อยู่ในธุรกิจค้าปลีกออนไลน์ 3-4 ราย เช่น Flipkart.com Snapdeal PayTM ที่สนใจเข้าลงทุนหาสินค้าไทยเพื่อนำเข้าไปวางจำหน่ายในร้านค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์มค้าปลีกออนไลน์ของอินเดีย ส่วน Polar Capital เป็นสตาร์ทอัพด้านการให้บริการรถแท็กซี่ออนไลน์ก็สนใจเข้ามาศึกษาลู่ทางในประเทศไทยเช่นกัน ซึ่งการมาของสตาร์ทอัพอินเดียกลุ่มนี้จะเป็นประโยชน์ต่อไทย เพราะในอนาคตถ้าพูดถึงตลาดอี-คอมเมิร์ซที่ใหญ่รองจากจีนก็น่าจะเป็นอินเดีย
         
นอกจากนี้ ล่าสุดทางเครือเจริญโภคภัณฑ์ได้เข้าไปลงทุนทำธุรกิจค้าปลีกในอินเดีย โดยผ่านสยามแม็คโคร ซึ่งจะเป็นลักษณะของการขายส่ง ทำให้ในอนาคตจะเป็นอีกช่องทางสำคัญในการ กระจายสินค้าไทยในตลาดอินเดีย

น.ส.ปริม จิตจรุงพร กรรมการเลขาธิการสภาธุรกิจไทย-อินเดีย และประธานกรรมการบริหารบริษัท แอ็ลไลด์ เม็ททัลส์ (ไทยแลนด์) กล่าวว่า อินเดียเป็นตลาดที่มีโอกาสมากมายและหลากหลาย แต่การจะเข้าไปจะต้องปรับทัศนคติตัวเองในการมองประเทศและคนอินเดียก่อน เพราะหากยังติดกับภาพความคิดเดิมๆ ก็จะทำให้มองข้ามโอกาสไป