รีดเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ กดดีเซลต่ำกว่าแก๊สโซฮอล์

กบง.รีดเงินแก๊สโซฮอล์ 95-91 เข้ากองทุนน้ำมันฯ อีก 25 สตางค์/ลิตร ปตท.เร่งดันปั๊มรถไฟฟ้า

นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยภายหลังการประชุม คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ที่มี พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.พลังงาน เป็นประธานว่าที่ประชุมมีมติให้ปรับเพิ่มอัตราเงินนำส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงของน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 และแก๊สโซฮอล์ 91 อีก 25 สตางค์/ลิตร จากปัจจุบันเก็บอยู่ 10 สตางค์/ลิตร รวมเป็น 35 สตางค์/ลิตร เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาราคาน้ำมันในตลาดโลกในกลุ่มดีเซลปรับลดลงต่อเนื่อง ขณะที่กลุ่มเบนซินยังทรงตัวส่งผลให้ราคาน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95-91 มีราคาที่ถูกกว่าน้ำมันดีเซล ซึ่งไม่เหมาะสมเพราะโดยหลักการดีเซลควรถูกกว่าเบนซิน

นอกจากนี้ หากพิจารณาส่วนต่างราคาของแก๊สโซฮอล์ 95 กับแก๊สโซฮอล์ 91 ยังห่างกันอยู่ 42 สตางค์/ลิตร ซึ่งในหลักการที่เหมาะสมควรมีราคาห่างกันเพียงไม่เกิน 24-25 สตางค์/ลิตร โดยหลังจากเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ ครั้งนี้ รวมกับการปรับลดราคาขายปลีกลงอีก 15 สตางค์/ลิตร จะทำให้ส่วนต่างราคาของน้ำมัน 2 ชนิดต่างกันเพียง 27 สตางค์/ลิตร และผลจากการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ ครั้งนี้ ช่วยลดภาระกองทุนน้ำมันฯ จากเดิมมีเงินไหลออกอยู่เดือนละ 350 ล้านบาท เหลือ 200 ล้านบาท/เดือน

ด้าน นายพงษ์ชัย ชัยจิรวิวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจการตลาด บริษัท บางจากปิโตรเลียม กล่าวว่า กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงได้เรียกเก็บเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มเติมเฉพาะแก๊สโซฮอล์ 91 และแก๊สโซฮอล์ 95 ทำให้ราคาน้ำมันจะปรับลดลงเฉพาะแก๊สโซฮอล์ 95 ในอัตรา 15 สตางค์/ลิตร และดีเซลลง 30 สตางค์/ลิตร

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท. กล่าวว่า ปตท.อยู่ระหว่างเจรจากับบริษัทรถยนต์ 3-4 แห่ง ที่มีแผนจะนำรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) มาจำหน่ายในประเทศไทย เพื่อร่วมกันสร้างสถานีชาร์จไฟฟ้ารถยนต์ (ปั๊มชาร์จไฟฟ้า) ภายในปั๊ม ปตท. นำร่อง 20 แห่ง ภายในปี 2560 คาดใช้เงินลงทุนกว่า 100 ล้านบาท

ทั้งนี้ ปตท.ต้องการสนับสนุนนโยบายภาครัฐที่ต้องการผลักดันให้มีการใช้รถยนต์อีวีมากขึ้นในอนาคต โดยปั๊มชาร์จไฟฟ้า ปตท.จะเป็นผู้ลงทุนเอง หาพื้นที่ตั้งภายในปั๊ม ปตท.ที่เหมาะสม ขณะนี้ได้เริ่มทดลองเปิดให้บริการแล้ว 4 แห่ง จะเพิ่มเป็น 6 แห่ง ภายในปี 2559 และเป็น 20 แห่ง ภายในปี 2560

สำหรับบริษัทรถยนต์จะเป็นผู้เช่าเหมาจ่ายค่าดำเนินการของปั๊มชาร์จไฟฟ้ารวมทั้งค่าไฟฟ้าเนื่องจากในช่วง 1-2 ปีแรก จะให้บริการฟรีสำหรับลูกค้าที่นำรถยนต์อีวีมาชาร์จไฟฟ้า แต่จะต้องเป็นรถยนต์อีวีที่เป็นของบริษัทที่ตกลงกับ ปตท.ไว้ โดยจะลงทะเบียนในระบบและแจกบัตรแสดงสิทธิในการชาร์จไฟฟ้า

ปัจจุบันมีรถยนต์อีวีในประเทศราว 50 คัน โดยส่วนใหญ่เป็นรถที่นำมาทดลองวิ่ง ส่วนรถยนต์ที่จำหน่ายในเชิงพาณิชย์มีเพียง 10 คันเท่านั้น

“ขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือกับค่ายรถยนต์ 3-4 แห่ง เบื้องต้นมี 2 ค่ายแล้วที่พร้อมจะเป็นโมเดลปั๊มชาร์จไฟฟ้า ซึ่งจะเป็นแนวทางหนึ่งที่จะช่วยส่งเสริมให้เกิดการใช้รถยนต์อีวี เพื่อให้เกิดขึ้นได้เร็ว” นายอรรถพล กล่าว

สำหรับธุรกิจโรงแรมราคาประหยัด (Budget Hotel) ในปั๊ม ปตท.นั้น ในเดือน ส.ค.จะออกหลักเกณฑ์ประกาศ เพื่อเชิญชวนผู้สนใจส่งแผนพัฒนาโรงแรมมาเสนอและให้เวลาจัดทำแผนธุรกิจ 2 เดือน