posttoday

หลวงจีนกล่อมเสือ เมื่อพระป่าใช้ธรรมะเอาชนะใจสัตว์ร้าย

13 มกราคม 2563

ไต้ซือกว่างชิน เป็นพระเถระรูปสำคัญของจีนแผ่นดินใหญ่-ไต้หวัน ท่านมีคำสอนที่ลึกซึ้งแต่เข้าถึงได้ง่าย

ไต้ซือกว่างชิน เป็นพระเถระรูปสำคัญของจีนแผ่นดินใหญ่-ไต้หวัน ท่านมีคำสอนที่ลึกซึ้งแต่เข้าถึงได้ง่าย ยามละสังขารแล้วมีปฏิหาริย์เกิดขึ้นเป็นที่โจษจัน นี่เป็นเรื่องเล่าจากชีวิตจริงของท่าน

เมื่อท่านอายุ 5 หรือ 6 ขวบ ท่านจะไปวัดกับแม่เพื่อไปไหว้พระ มีไต้ซือท่านหนึ่งกล่าวว่าการมาวัดเป็นการ "ปลูกฝังมูลรากที่ดีแก่เจ้า" ตอนอายุ 25 หรือ 26 ปี ท่านจึงไปที่วัดเฉิงเทียน หลังจากนั้นท่านเล่าว่า

"หลังจากที่พ่อแม่ของอาตมาจากไป อาตมาจึงไปที่หนานยางและกินมังสวิรัติ ช่วงเวลานี้ทำให้อาตมารู้สึกลึกๆ ว่าไม่มีความหวังในโลก ชีวิตไม่มีความหมาย พ่อแม่ทิ้งมรดกไว้ถ้าอาตมายังทำไร่ทำนาเหมือนพวกท่าน ก็จะแก่ชราและในที่สุดก็จะตายเวียนว่ายอยู่ในวัฏสงสาร ดังนั้นอาตมาต้องการขอหยุดการเกิดตาย

อายุสาม 36 ปีกลับมาจากหนานยางและไปที่วัดเฉิงเทียนเพื่อบวชเป็นพระอย่างเป็นทางการ หลี่รุ่ยฟางเป็นผู้ปลงผม ในเวลานั้นผู้คนให้ความสนใจกับการทำนาทำไร่ อาตมาไม่ได้เรียนหนังสือ ไม่รู้ศัพท์แสงอะไร เริ่มจากดูแลสวนผัก ทำงานในโรงครัว มีการศึกษาแค่ระดับขั้นพื้นฐาน อาสาทำงานที่ผู้คนไม่ต้องการทำ ในช่วงเวลานั้นอาตมาก็สวดภาวนาพุทธานุสสติและนั่งสมาธิ

หลังจากบวชแล้ว อาตมากลับไปที่วัดเฉิงเทียนเป็นเวลา 3 ปี ฝึกฝนกังฟู และเตรียมตัวปฏิบัติธรรมที่ภูเขา เมื่ออาตมาจะขึ้นไปอยู่บนภูเขา อาตมานำชุดจีวรไป 2 - 3 ชิ้น เข็มเย็บผ้า ข้าว 10 หรือ 20 กิโลกรัม ไม้ขีดไฟ และพบถ้ำหินในชิงหยวนซาน มีถ้ำหนึ่งถ้ำปากเข้าถ้ำสองแห่ง อาตมาเลือกอยู่ในช่องถ้ำหนึ่ง ถ้ำแห่งนี้เงียบมากมีก้อนหินใหญ่อยู่ ยามนั่งสมาธิบนก้อนหินอาตมารู้สึกสบายมาก

เมื่อพระอาทิตย์ตกดิน ทันใดนั้นเสือตัวหนึ่งก็มาถึงที่ถ้ำ อาตมาตกใจ จึงภาวนา "อมิตาภพุทธ" เสือเกิดความกลัวอาตมา ครั้นแล้วอาตมาจึงวิ่งออกไปทันที แต่หลังจากผ่านไประยะหนึ่งก็เข้ามาอีกครั้ง แล้วบอกกับเสือว่า "ท่านขุนพลภูเขา ท่านช่วยเกื้อหนุนอาตมาให้ปฏิบัติธรรมในถ้ำได้หรือไม่ หรือท่านอยากจะกินอาตมาเล่า?"

อาตมาเห็นว่าเสือนั้นไม่ทำอันตราย ดังนั้นอาตมาจึงสอนธรรมะให้ นี่เรียกว่า "ใจสัมผัสใจ" อาตมาไม่ได้เป็นอันตรายต่อเสือ เสือก็ไม่ได้มุ่งร้ายต่ออาตมา

ในวันรุ่งขึ้นเสือก็พาลูกเสือตัวเล็กๆ หลายตัวมาเล่นรอบๆ ถ้ำกระโดดโลดเต้นไปมา มันดูมีความสุขมาก พื้นที่ตรงนี้ดีมาก เป็นดินแดนที่ไม่มีการกินเนื้อสัตว์ นกและลิงไม่ร้องเสียงดัง เป็นโลกที่ไร้เสียงรบกวน สงบเงียบยิ่งนัก"

ในเวลาต่อมาผู้คนจึงเรียกท่านว่า พระอาจารย์กล่อมเสือ  

เรียบเรียงโดยกรกิจ ดิษฐาน

ภาพประกอบ ชื่อภาพ "บูรพาจารย์ลับดับที่สอง" วาดโดยสือเค่อ จิตรกรจีนยุคห้าราชวงศ์ อยู่ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติโตเกียว