posttoday

พระพรหมวชิรญาณ ยกย่องการทำงาน ของพระธรรมทูตอินเดีย

17 มีนาคม 2562

เรื่อง: วรธาร

เรื่อง: วรธาร


วันที่ 5-9 มี.ค. 2562 พระพรหมวชิรญาณ กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดยานนาวา ผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนประธานสำนักงานกำกับดูแลพระธรรมทูตไปต่างประเทศ ได้เดินทางไปเจริญศาสนสัมพันธ์ โครงการส่งเสริม
บทบาทของไทยในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในภูมิภาคอินเดียตะวันตก เมืองออรังกาบัด รัฐมหาราษฎร์ โดยได้ไปปาฐกถาธรรม ณ มหาวิทยาลัย Dr.Babasheb Ambedkar Marathwada University และศูนย์ฝึกอบรมพระสงฆ์ ณ วัดโลกุตรมหาวิหาร

พร้อมกันนั้น ยังได้ไปศึกษาดูงานการเผยแผ่พระพุทธศาสนาของคณะพระธรรมทูตสายอินเดีย-เนปาล และศึกษาประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนา ณ ถ้ำเอลโลร่า อายุ 2,000 กว่าปี เมืองออรังกาบัด โดยมี พระธรรมโพธิวงศ์ (วีรยุทฺโธ) หัวหน้าพระธรรมทูตสายอินเดีย-เนปาล เจ้าอาวาสวัดไทยพุทธคยา พร้อมทีมงานพระธรรมทูตสายประเทศอินเดีย-เนปาล พร้อมด้วย ชุตินทร คงศักดิ์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงนิวเดลี และเอกพล พูลพิพัฒน์ กงสุลใหญ่ ณ เมืองมุมไบ พร้อมคณะนักศึกษาไทยมหาวิทยาลัย ดร.เอ็มเบดการ์ฯ ถวายการต้อนรับ

เวลาบ่ายของวันที่ 8 มี.ค. ผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนประธานสำนักงานกำกับดูแลพระธรรมทูตไปต่างประเทศ พร้อมด้วย ชุตินทร คงศักดิ์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงนิวเดลี และเอกพล พูลพิพัฒน์ กงสุลใหญ่ ณ เมืองมุมไบ ได้เดินทางไปวัดไทยอชันต้า-เอลโลร่า เพื่อประกอบพิธีเปิดผ้าม่านพระประธานวัดไทยอชันต้า-เอลโลร่า ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่สร้างจากหินทรายแดง โดยมี พระธรรมโพธิวงศ์ หัวหน้าพระธรรมทูตสายประเทศอินเดีย-เนปาล พระครูปลัดสุวัฒนพุทธิคุณ พระครูนรนาถเจติยาภิรักษ์ (สมพงศ์) พระครูอุดมโพธิวิเทศ (ณรงค์) พระครูธรรมธรสงกรานต์ กิตฺติวํโส ถวายการต้อนรับ โดยมีชาวพุทธอินเดียประมาณ 100 คน มาร่วมงาน

พระพรหมวชิรญาณ ยกย่องการทำงาน ของพระธรรมทูตอินเดีย

ในโอกาสนี้ พระครูปริยัติโพธิวิเทศ (พระมหา ดร.คมสรณ์) โฆษกพระธรรมทูตสายประเทศอินเดีย-เนปาล เจ้าอาวาสวัดไทยเชตวันมหาวิหาร ผู้ได้รับมอบหมายจากหัวหน้าพระธรรมทูตอินเดียให้เป็นแม่งานในการสร้างวัดไทยอชันต้า-เอลโลร่า ได้กล่าวถวายรายงานการจัดสร้างวัดไทยอชันต้าฯ ต่อพระพรหมวชิรญาณ ผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนประธานสำนักงานกำกับดูแลพระธรรมทูตไปต่างประเทศ พร้อมแนะนำพระภิกษุชีวก ชาวอินเดีย ผู้มีจิตศรัทธายกที่ดินจำนวน 13 ไร่ ใกล้ถ้ำเอลโลร่า มูลค่ากว่า 50 ล้านบาท เพื่อสร้างวัดไทยอชันต้า-เอลโลร่า ถวายเป็นสมบัติในพระพุทธศาสนาและเป็นพุทธบูชา ปัจจุบันวัดอชันต้าฯ แม้จะยังสร้างไม่เสร็จแต่ก็เปิดรับคณะผู้แสวงบุญได้แล้ว

หลังจบการถวายรายงาน พระพรหมวชิรญาณ ได้จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัยด้านหน้าพระพุทธรูป ชาวพุทธในงานร่วมกันไหว้พระรับศีล 5 เพื่อความเป็นสิริมงคล จากนั้นผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนประธานสำนักงานกำกับดูแลพระธรรมทูตไปต่างประเทศ ได้เมตตาประพรมน้ำพระพุทธมนต์และมอบพระพุทธเมตตาแก่ผู้ที่มาร่วมงานเป็นที่ระลึก พร้อมทั้งได้เมตตาปลูกต้นพระศรีมหาโพธิ์เป็นที่ระลึก ขณะที่ พระธรรมโพธิวงศ์ ปลูกต้นอชปาลนิโครธ ส่วนเอกอัครราชทูต ชุตินทร ปลูกต้นพิกุล ไว้เป็นอนุสรณ์แก่วัดไทยอชันต้า-เอลโลร่า

พระพรหมวชิรญาณ กล่าวว่า ได้เห็นและติดตามการทำงานฟื้นฟูพระพุทธศาสนาในดินแดนชมพูทวีปอินเดียและเนปาลของคณะพระธรรมทูตไทยสายประเทศอินเดีย-เนปาล มาตั้งแต่หลัง 25 พุทธศตวรรษเป็นต้นมา จนมาถึงรุ่นปัจจุบันที่มีท่านพระธรรมโพธิวงศ์ (วีรยุทฺโธ) เป็นหัวหน้าพระธรรมทูต พูดได้เลยว่าคณะพระธรรมทูตทำงานอย่างหนักหน่วงและด้วยหัวใจที่ทุ่มเทมาก

“อาตมาเองได้ร่วมทำงานฟื้นฟูพระพุทธศาสนาในดินแดนชมพูทวีปในช่วงเริ่มต้น ตั้งแต่ปี 2500-2516 หลังจากนั้นก็ยังติดตามงานพระธรรมทูตและคอยให้กำลังใจอยู่เสมอ ตลอดเวลาที่ผ่านมาอาตมาจึงได้เห็นถึงความยากลำบาก ความเสียสละ ความอดทนและความทุ่มเทอย่างมากของคณะพระธรรมทูตเรา เชื่อว่าด้วยพุทธบารมีของพระพุทธองค์จะทำให้การฟื้นฟูพระพุทธศาสนาในดินแดนพุทธภูมิแห่งนี้ประสบความสำเร็จและกลับมารุ่งเรืองอีกวาระหนึ่งภายใต้การขับเคลื่อนของคณะพระธรรมทูตสายประเทศอินเดีย-เนปาล และพุทธบริษัททั้งหลาย

ปัจจุบันผลสัมฤทธิ์ก็เริ่มปรากฏให้เห็นแล้ว ทั้งคนอินเดียและชาติอื่นๆ หันมาศรัทธาและศึกษาธรรมะในพระพุทธศาสนามากขึ้น เชื่อว่าภาพชาวพุทธรุ่นใหม่ ตั้งแต่ ดร.เอ็มเบดการ์ เป็นต้นมาถึงปัจจุบันจะสะท้อนให้เห็นความหวังที่จะฟื้นฟูพระพุทธศาสนาให้เกิดสันติภาพที่สุดในชมพูทวีปและประเทศอื่นๆ ที่ได้มาศึกษาแล้วนำไปเผยแผ่ไปทั่วโลกสืบต่อไป” พระพรหมวชิรญาณ ผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนประธานสำนักงานกำกับดูแลพระธรรมทูตไปต่างประเทศ กล่าวเชิดชูการทำงานของคณะพระธรรมทูตไทยสายประเทศอินเดีย-เนปาล